มาดูตัวอย่างจากการฝึกของอาตมาเอง ตั้งแต่เด็กมาหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้คาถาบทโน้นบทนี้ไปท่อง ไปภาวนา ไปฝึกซ้อม ก็ทำทีละบท เมื่อประสบความสำเร็จแล้วไปรายงานท่าน หลวงพ่อท่านก็ให้คาถาบทใหม่มา จนกระทั่งมีการภาวนาเป็นปกติ แปลว่าส่วนที่ได้มากที่สุดก็คืออานาปานสติ การรู้ลมหายใจเข้าออก ท่านก็ให้เปลี่ยนมาปฏิบัติกองกรรมฐานอื่น ๆ เป็นต้นว่ากสิณต่าง ๆ ก็เป็นการฝึกทีละกอง อนุสติต่าง ๆ ก็เป็นการฝึกทีละกอง
เมื่อได้แล้วก็ยังต้องทบทวนของเก่าก่อน จนกระทั่งคล่องตัวเสมอกันแล้ว จึงขยับไปกองใหม่ได้ แต่ปัจจุบันพวกเราส่วนใหญ่แล้ว อยู่ในลักษณะของการจับปลาหลายมือ เดี๋ยวก็ทำกรรมฐานกองนี้ เดี๋ยวก็ภาวนาพระคาถาบทนั้น ทำให้โอกาสที่จะทำได้สำเร็จจริง ๆ มีน้อย เท่ากับว่าเราเปลี่ยนกองกรรมฐานอยู่เรื่อย ของเก่าก็ยังไม่ได้ ของใหม่ก็ยังไม่ดี
อยากจะทำได้มาก ๆ เพื่อเอาไว้อวดให้คนอื่นให้เขารู้ว่าเราทำได้มาก แต่เพราะว่าอยากมากเกินไปก็เลยไม่ได้อะไรสักที จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเล็งเอากองกรรมฐานกองเดียว เมื่อทำจนกระทั่งเกิดผลจริง ๆ แล้ว จึงค่อยเปลี่ยนกองกรรมฐานต่อไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2017 เมื่อ 19:13
|