โครงสร้างพระสัทธรรม (๖)
ยถา หิ มหโต ตฬากสฺส ปาลิยา ถิราย อุทกํ น ฐสฺสตีติ น วตฺตพฺพํ, อุทเก สติ ปทุมาทีนิ ปุปฺผานิ น ปุปฺผิสฺสนฺตีติ น วตฺตพฺพํ,เอวเมว มหาตฬากสฺส ถิรปาลิสทิเส เตปิฏเก พุทฺธวจเน สติ มหาตฬาเก อุทกสทิสา ปฏิปตฺติปูรกา กุลปุตฺตา นตฺถีติ น วตฺตพฺพา, เตสุ สติ มหาตฬาเก ปทุมาทีนิ ปุปฺผานิ วิย โสตาปนฺนาทโย อริยปุคฺคลา นตฺถีติ น วตฺตพฺพนฺติ เอวํ เอกนตฺโต ปริยตฺติเยว ปมาณํ.
เมื่อทำนบของสระใหญ่ยังมั่นคงแข็งแรงอยู่ ใคร ๆ ก็ไม่สามารถจะพูดได้ว่า ไม่มีน้ำขังอยู่ เมื่อยังมีน้ำขังอยู่ ใคร ๆ ก็ไม่สามารถจะพูดได้ว่า ดอกไม้ทั้งหลาย มีดอกปทุมเป็นต้น จักไม่บานสะพรั่ง ฉันใด เมื่อพระพุทธพจน์คือพระไตรปิฎกอันเป็นเช่นกับทำนบของสระใหญ่ที่มั่นคงแข็งแรงยังมีอยู่ กุลบุตรทั้งหลายผู้เป็นนักปฏิบัติอันเป็นเช่นกับน้ำ ใคร ๆ ก็ไม่สามารถจะพูดได้ว่า ไม่มี เมื่อกุลบุตรผู้ปฏิบัติเหล่านั้นมีอยู่ ใคร ๆ ก็ไม่สามารถพูดได้ว่า พระอริยบุคคลทั้งหลายมีพระโสดาบันเป็นต้น ซึ่งเหมือนกับดอกปทุมเป็นต้นที่ในสระใหญ่ ไม่มี ตามที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่า พระปริยัติธรรมเท่านั้น จัดว่าเป็นรากฐานของพระศาสนาโดยแท้
(สารัตถัปปกาสินี อรรถกถาพระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย โดยพระพุทธโฆสาจารย์)
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน
อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 19-09-2011 เมื่อ 20:10
|