ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 30-11-2019, 01:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การที่เราจะรู้ระมัดระวังก็ต้องรู้จักหน้าตาของนิวรณ์ ๕ อย่าง อย่างแรกคือกามฉันทะ ความยึดมั่นอยู่ในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ ตัดไม่ได้ ละไม่ได้ วางไม่ได้ แม้กระทั่งตอนปฏิบัติธรรมก็ยังคงฟุ้งซ่าน ตรึกนึกถึงอยู่ในเนือง ๆ

ข้อที่ ๒ คือ พยาบาท ความโกรธเกลียดอาฆาตแค้นคนอื่น ผูกโกรธ จดจำไปนาน เป็นการดองกิเลสเอาไว้ในใจของเรา

ข้อที่ ๓ ถีนมิทธะ ความง่วงเหงาหาวนอน ความขี้เกียจไม่อยากปฏิบัติธรรม พยายามหาเหตุผลดี ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอที่จะไม่ต้องปฏิบัติธรรม

ข้อที่ ๔ อุทธัจจกุกกุจจะ เป็น ๒ อารมณ์รวมกันอยู่ในข้อเดียว ก็คืออุธัจจะ ความฟุ้งซ่าน กับ กุกกุจจะ ความหงุดหงิดรำคาญ ปฏิบัติธรรมเมื่อไรก็จะฟุ้งซ่านไปสู่อารมณ์อื่น รัก โลภ โกรธ หลง ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ เสร็จแล้วก็จะมาหงุดหงิดรำคาญใจว่า ทำไมไม่สงบเสียที ? ทำไมไม่นิ่งเสียที ?

ท้ายสุด คือ วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในผลของการปฏิบัติ จะดีจริงไหมนะ ? ทำแล้วจะได้อย่างคนอื่นเขาไหมนะ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2019 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา