ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 30-11-2019, 01:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,359 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเรารู้จักดู รู้จักระมัดระวัง ในแต่ละวันอย่าให้นิวรณ์ ๕ อย่างกินใจเราได้ ก็แปลว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว โอกาสที่กิเลสนักปฏิบัติจะหลอกลวงเราให้ยึดติดอยู่ก็มีน้อย เมื่อเรารู้ตัวก็พยายามก้าวข้ามไปให้ได้

การข้ามนิวรณ์นั้นง่ายนิดเดียว อยู่กับลมหายใจปัจจุบันก็จบแล้ว หายใจเข้าผ่านจมูก...ผ่านอก...ลงไปถึงท้อง หายใจออกจากท้อง...ผ่านอก...มาที่ปลายจมูก ความรู้สึกอยู่แค่นี้พร้อมกับการภาวนา นิวรณ์อะไรก็กินเราไม่ได้ เพียงแต่ว่าเราสามารถรักษาอารมณ์ทั้งหลายนี้ไว้ได้นานเท่าไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ดังนั้น...ที่ได้กล่าวไปตอนต้นก่อนการปฏิบัติธรรมก็ดี ในช่วงนี้ก็ดี ญาติโยมทั้งหลายก็ไม่ต้องหนักใจว่า กิเลสมีมาก มีความละเอียดสูง เราจะรู้ไม่เท่าไม่ทัน อาตมาขอยืนยันว่ากิเลสละเอียดเท่าไร ปัญญาละเอียดเท่านั้น เพราะว่าเขาเป็นคู่ศึกกันโดยอัตโนมัติ ถ้าทำไม่ถึงก็ไม่เห็นทุกข์เห็นโทษ ถ้าทำถึงเมื่อไรก็เห็นหน้าคู่ต่อสู้ ปัญญาก็จะตรงเข้าห้ำหั่นฟันทิ้ง ตัดละไปโดยอัตโนมัติ

ดังนั้น ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติมานานแล้วยังเอาดีไม่ได้ อย่าท้อใจ เราผิดแล้วเป็นครู อย่างน้อย ๆ สอนใจตัวเองได้ สอนคนอื่นได้ เมื่อก้าวข้ามไปเมื่อไร เราก็จะเห็นว่าสิ่งที่เราทำมานั้นยังไม่ดีจริง ยังมีสิ่งที่ดีกว่า จนกระทั่งไปยึดอยู่ตรงจุดสุดท้าย เมื่อปล่อยจุดสุดท้ายเมื่อไร ความหลุดพ้นก็จะบังเกิดขึ้นกับเราทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องปฏิบัติกันให้ถึงต่อไป

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2019 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา