คราวนี้สิ่งที่เราทำนี้ ก็ทำโดยตระหนักรู้ว่า สภาพร่างกายนี้แม้ไม่ใช่ของเรา แต่ถ้าหากว่าร่างกายรวนขึ้นมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ตัวเราคือจิตที่อาศัยอยู่ก็ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร เราจึงมีหน้าที่ที่ต้องดูแลรักษาร่างกายนี้ให้ดีที่สุด เพียงแต่มีสติรู้อยู่เสมอว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เป็นเพียงธาตุ ๔ คือดิน น้ำ ไฟ ลม ที่เรายืมโลกมาใช้ชั่วคราว เมื่อถึงเวลาก็เสื่อมสลาย ตาย พัง กลับคืนโลกไปตามเดิม
ความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสิ่งที่คู่กับกายสังขารนี้ ดังบาลีที่ว่า สังขารัง โรคนิทธัง สังขารนี้เป็นรังของโรค ปะภังคุณัง ต้องเน่าเปื่อยเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ในเมื่อเรารู้ว่าร่างกายนี้เป็นรังของโรค ถ้าดูแลไม่ดี บริหารจัดการไม่ดี โรคภัยไข้เจ็บถามหา ตัวเราที่ยังต้องอาศัยร่างกายนี้เพื่อสร้างบุญสร้างกุศล นำพาให้เราหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน ก็จะต้องยากลำบาก เพราะว่าสังขารที่เป็นโรคก็เหมือนกับรถที่เครื่องยนต์บกพร่อง ไม่สามารถจะใช้งานได้อย่างเต็มสภาพ ย่อมสร้างความอึดอัดคับข้องใจให้แก่บุคคลที่ต้องอาศัยสังขารนี้อยู่
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2020 เมื่อ 19:14
|