ดูแบบคำตอบเดียว
  #22  
เก่า 26-11-2009, 17:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,510
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,961 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงฝากพระพุทธศาสนาไว้กับพุทธบริษัททั้ง ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา

ในปัจจุบันนี้สำหรับประเทศไทยเรา ถือว่าภิกษุณีบริษัทจบสิ้นไปแล้ว ที่มีอยู่ก็เป็นของทางสายมหายาน ทางสายเรามีแม่ชีมาแทน ในส่วนของแม่ชีนั้นถ้าว่าไปแล้วจัดว่าเป็นอุบาสิกาพิเศษที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในโลก เนื่องจากว่าหลังการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๓ แล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชทรงส่งสมณทูตออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็น ๙ สาย ตามแคว้นต่าง ๆ ในสมัยนั้น สายที่ ๘ ซึ่งนำโดยพระโสณะและพระอุตตระเถระ ได้มาเผยแผ่พระพุทธศาสนายังสุวรรณภูมิ ซึ่งในยุคนั้นเขตสุวรรณภูมิมีศูนย์กลางอยู่ที่เขตราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรีและนครปฐม รวมกัน เรียกว่าเมืองทวาราวดี

ในครั้งนั้นเมื่อท่านเผยแผ่พระศาสนาแล้ว เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของญาติโยมเป็นจำนวนมาก ฝ่ายชายก็ขอบวชเป็นพระภิกษุ ฝ่ายหญิงก็ต้องการบวชเป็นภิกษุณี แต่เนื่องจากพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติเอาไว้ว่า การบวชภิกษุณีนั้นต้องบวชในสงฆ์ทั้งสองฝ่าย คือ ญัตติในฝ่ายของภิกษุณีแล้วให้มาญัตติในฝ่ายของภิกษุสงฆ์อีกครั้งหนึ่ง คณะที่เดินทางมานั้นประกอบด้วยพระมหาเถระ ๕ รูป ไม่มีภิกษุณีที่เป็นปวัตตินี คือ อุปัชฌาย์มาด้วย จึงไม่สามารถทำการบวชภิกษุณีได้ พระโสณะเถระจึงได้ทำการแก้ไข โดยการให้บวชเป็นนักบวชหญิง โกนหัว นุ่งขาวห่มขาว ถือศีลแปด เพื่อรอว่าถ้ามีภิกษุณีมาแล้ว ก็จะได้ทำการบวชอย่างถูกต้องตาม

การบวชนั้นจึงเป็นการเกิดแม่ชีขึ้นครั้งแรกในโลก ในเขตของทวาราวดีซึ่งปัจจุบันคือเขตของประเทศไทย สำนักแห่งแรกที่ให้แม่ชีอยู่รวมกันเพื่อปฏิบัติธรรมนั้น อยู่ในเขตจังหวัดราชบุรี ชื่อว่า สำนักประชุมนารี ปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่ แสดงว่าสืบทอดมาประมาณสองพันปีเศษ ๆ แล้ว

ในเมื่อบ้านเราไม่มีภิกษุณีแต่มีแม่ชีแทน ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง เป็นตัวแทนของภิกษุณีบริษัท เมื่อพระพุทธเจ้าทรงฝากพระศาสนาไว้ในส่วนของพุทธบริษัททั้ง ๔ ก็แปลว่า ไม่ว่าจะพระ เณร แม่ชี หรือฆราวาสชายหญิงก็ตาม ทุกท่านล้วนแล้วแต่มีหน้าที่ในการค้ำจุนเกื้อกูลศาสนาให้เจริญถาวรสืบต่อไป จนกว่าจะครบห้าพันปี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-11-2009 เมื่อ 19:41
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา