ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 20-04-2009, 14:45
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,345 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default อดีตที่ผ่านพ้นตอนที่ ๒๒ : พระบรมสารีริกธาตุอันตรธาน

๒๒. พระบรมสารีริกธาตุอันตรธาน


ในอันตรธานปริวรรตแห่งปฐมสมโพธิกถา กล่าวถึงการสิ้นสุดของพระพุทธศาสนาว่า ประกอบด้วยการเสื่อมสูญ ๕ อย่างคือ...

๑. ปริยัติอันตรธาน เสื่อมสูญจากการศึกษาธรรม
๒. ปฏิบัติอันตรธาน เสื่อมสูญจากการปฏิบัติธรรม
๓. ปฏิเวธอันตรธาน เสื่อมสูญจากผลของการศีกษา และปฏิบัติธรรม
๔. ลิงคอันตรธาน เสื่อมสูญจากเพศของภิกษุ
๕. ธาตุอันตรธาน เสื่อมสูญจากพระบรมสารีริกธาตุ

การเสื่อมสูญแต่ละอย่างนั้นจะทวีมากขึ้นไปตามลำดับ ในท้ายสุดแห่งพระพุทธศาสนา พระบรมสารีริกธาตุทั้งมวลจะมาประชุมรวมกัน เป็นพระรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงพร้อมด้วยฉัพพรรณรังสี รัศมี ๖ ประการ... รูปพระพุทธนิมิตทรงเทศนาสั่งสอนสัตว์โลกเป็นครั้งสุดท้าย เป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืนแล้วอันตรธานไป ปล่อยให้ไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลกให้สะอาดหมดจดดังเดิม (ใช้ผงซักฟอกยี่ห้อไหนจ๊ะ...? จะขอมาฟอกลูกศิษย์บางคนซักกำมือ...!)

นั่นเป็นไปตามตำราเขาว่าไว้ อาตมาก็จำขี้ปากเขามาเล่าต่อ จะเท็จจริงประการใด ขอเชิญบรรดาท่านผู้สงสัย อยู่รอดูจนกว่าจะถึงวันนั้น ถึงเวลาก็จะทราบเอง แค่สองพันกว่าปีเท่านั้น นั่งบ้างนอนบ้าง แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว...ฮิ...ฮิ...!

หลังจากพระมหากัสสปเถรเจ้า เป็นประธานประชุมเพลิงพระพุทธสรีระแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือ พระบรมสารีริกธาตุน้อยใหญ่จำนวน ๘ ทะนานทอง บรรดากษัตริย์ทั้ง ๗ นครต่างยกทัพมา เพื่อขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุไปบูชา (ยกทัพมาเนี่ยขอแน่นะ...!)

นครกุสินาราถึงจะเป็นเมืองเล็ก แต่ไอ้การทำเป็นนักเลงโต ยกทัพมาเบ่งทำท่าขู่กันแบบนี้ ใหญ่เท่าใหญ่ก็ขอลองซักตั้งเถอะน่า แพ้ชนะค่อยว่ากันทีหลัง… (แหม...ถูกใจ...!) ก็ตั้งป้อมสู้ซิ...แน่จริงเข้ามาเลย...ได้ฟัดกันแหลกราญไปข้าง...!

บังเอิญมีบัณฑิตผู้หนึ่งชื่อว่า "โทณพราหมณ์" เห็นว่าการรบกันนั้น ไม่ใช่วิสัยของพุทธศาสนิกชน จึงเข้ามาไกล่เกลี่ยอาสาเป็นผู้แบ่งปันพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ไม่อยากเสี่ยงต่อการบาดเจ็บล้มตาย เมื่อมีพระเอกมาห้ามทัพแบบนี้ก็ตกลง...

โทณพราหมณ์เห็นว่า พระบรมธาตุเขี้ยวแก้วเป็นของสำคัญ หากมอบให้ผู้ใดผู้หนึ่งไป ผู้อื่นย่อมไม่พอใจ จึงงุบงิบหยิบซ่อนไว้ในมวยผม แต่ว่า...เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกระดาษยังมีซาลาเปา พระอินทร์เจ้าเก่าเอาพานแก้วมณีมารองรับ เท่ากับโทณพราหมณ์หยิบใส่พานให้ ท่านปู่เลยเอาไปบรรจุไว้ ณ จุฬามณีเจดียสถาน ที่ดาวดึงสเทวโลก...

ดังนั้น...ในระยะแรก พระบรมสารีริกธาตุทั้งหลายจึงแยกย้ายกันไปใน ๗ พระนคร ต่อมาผู้ที่ทำการสักการบูชาด้วยความเลื่อมใส พระบรมสารีริกธาตุก็เสด็จไปโปรดท่านผู้นั้น อย่างที่เสด็จมาอยู่กับหลวงพ่อ นับเป็นล้าน ๆ องค์เลยทีเดียว...!

พระบรมสารีริกธาตุมีรูปพรรณสัณฐานต่าง ๆ กันคือ เหมือนถั่วแตก หรือข้าวสารหัก ยกเว้นพระบรมธาตุสำคัญที่มีรูปร่างเฉพาะ เช่น พระเขี้ยวแก้ว พระอุณหิส พระรากขวัญ เป็นต้น มีสีขาวเหมือนสีสังข์บ้าง ใสเหมือนเพชรบ้าง สีทองแวววาวบ้าง...

เวลาพระบรมสารีริกธาตุเสด็จ จะเป็นดวงแสงสีนวลสว่างจ้า เมื่อหลวงปู่ปานพาหลวงพ่อทั้งสามไปธุดงค์ พบพระธาตุเสด็จที่พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และเมื่อไปอยู่ที่วัดประยูรวงศาวาส จังหวัดธนบุรี ก่อนที่สัมพันธมิตรจะมาทิ้งระเบิดที่สะพานพุทธแค่ไม่กี่วัน หลวงพ่อและเพื่อนพระทั้งวัด ตลอดจนชาวบ้านที่ยังไม่ย้ายหนีภัยสงคราม เห็นพระธาตุเสด็จเหนือสะพานพุทธ สว่างจัดมาก ขนาดอยู่ที่วัดประยูรฯ ยังอ่านหนังสือได้เลย...!

ในงานฉลองวันเกิดหลวงพ่อปี ๒๕๒๖ ท่านเมตตาแจกพระบรมสารีริกธาตุให้ลูก ๆ นำไปบูชา ผู้คนแห่กันไปรับแทบจะเหยียบกันตาย บางคนเพิ่งรับมากับมือแท้ ๆ หายวับไปกับตา อาตมานั่งนวดเท้าให้หลวงปู่มหาอำพันอยู่ เห็นพระธาตุมาตกที่ข้างหน้าหลวงปู่มากมาย เก็บได้เป็นกำ ๆ เลย...!

คืนหนึ่งอาตมาเห็นพระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานเหมือนเม็ดข้าวสารเต็มเม็ดเสด็จมา สว่างไปทั้งท้องฟ้า พุ่งตรงมาที่หิ้งพระในห้องนอน ด้วยความดีใจรีบไปเปิดตลับดู ไม่เห็นมีท่านอยู่ พอไปเปิดตลับของพี่ประสิทธิ์ดู เสด็จมาอยู่ที่นี่เอง...!

ตอนที่อาตมาปิดฝาตลับนั่นเอง เกิดพลาดทำตลับตกพื้น พระบรมสารีริกธาตุกระจายไปทั้งห้อง และแสดงปาฏิหาริย์หายวับไปซึ่ง ๆ หน้า พื้นเป็นคอนกรีตขัดมันแท้ ๆ จะหาร่องหารูที่ไหนก็ไม่มี แต่ท่านมุดดินหายไปเฉย ๆ...!

ต่อมาอาตมาได้พระบรมสารีริกธาตุมาอีก ๒-๓ พันองค์ แบ่งถวายหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชผาติการามไปจนหมด พอได้มาอีกเมื่อไร ถูกญาติโยมขอหมดทุกที ยังไม่ทันสิ้นศาสนาเลย หายหมดเกลี้ยงซะแล้ว...!

๒ มีนาคม ๒๕๓๓
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คิมหันต์ : 20-04-2009 เมื่อ 18:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา