ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 24-10-2012, 10:41
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ดังนั้น พระพุทธองค์จึงตรัสว่า ศีลคือแม่ของพระธรรม หรือศีลเป็นมารดาของพุทธศาสนา (ผมขอให้ท่านผู้อ่านจงพิจารณาเอาเอง จะได้รู้ได้เห็นด้วยตนเอง เพราะธรรมของพระองค์จะรู้ได้ เห็นได้จริงตามความเป็นจริง ด้วยการปฏิบัติตามวิธีของพระองค์เท่านั้น และรู้ได้เห็นได้เฉพาะตนด้วย หากผู้ใดปฏิบัติยังไม่ถึง หรือยังไม่เข้าใจธรรมะของพระองค์ ทำอย่างไรก็ไม่มีทางรู้ทางเห็นได้ เพราะตัวเข้าใจคือตัวปัญญา หรือสัมมาทิฏฐิเกิด ผู้ที่ไม่เข้าใจธรรมะ ปัญญายังไม่เกิด หรือยังเป็นมิจฉาทิฏฐิอยู่) หากจะใช้สังโยชน์เป็นเครื่องวัดความดีของท่านหญิง ย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผม คือ

๑. สักกายทิฏฐิ ข้อแรกนี้ชัดเจนในคำอุทานที่ว่า “ชีวิตนี้ไม่มีความหมาย สมบัติในวังวิทยุไม่มีความหมาย” ผมขอผ่านไป

๒. วิจิกิจฉาข้อสองนี้ก็เช่นกัน ท่านเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยการปฏิบัติตาม ๑๐๐ % คือปฏิบัติตามอริยมรรค ๘ ซึ่งย่อแล้วเหลือ ๓ ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา หรือปฏิบัติบูชาด้วยทาน ศีล ภาวนา ท่านปฏิบัติตลอดเวลาชนิดเป็นอกาลิโก (คือ ทำตลอดเวลา ในทุกโอกาส ทุกสถานที่ และทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน)

๓. ศีล เป็นอธิศีล หรือเป็นสีลานุสติอยู่ในจิต โดยไม่ต้องระวัง หรือกลัว หรือสงสัยว่า จะผิดศีลหรือไม่จนกระทั่งแม้กรรมบถ ๑๐ เท่าที่ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน และได้สนทนาธรรมกับท่านเสมอ ๆ พรหมวิหาร ๔ ท่านเต็ม ๑๐๐% จากการเสียสละความสุขส่วนองค์ ทำทุกอย่างเพื่อประชาชนที่เดือดร้อน เพื่อตำรวจทหารที่อยู่แนวหน้า สละแม้แต่ชีวิตและทรัพย์สินที่รักและหวงแหน โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเท่ากับตัดโลภะ (ราคะ) นั้นเอง ส่วนปฏิฆะนั้น เมื่อพรหมวิหาร ๔ เต็ม อารมณ์ไม่พอใจย่อมไม่เกิด หรือเกิดก็ดับไปทันที เรื่องกามฉันทะกับปฏิฆะนั้น ผมเพียงแค่คาดคะเนหรือเดาหรือเพียงแค่สงสัยเท่านั้น เพราะผมปฏิบัติไปไม่ถึง เมื่อยังไม่ถึงก็ต้องมีความสงสัยอยู่เป็นธรรมดา

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2012 เมื่อ 15:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา