ในเมื่อเป็นดังนี้ก็แปลว่า ถ้าเราตั้งใจจะละจะวางจริง ๆ ของหยาบ ๆ แค่โทรศัพท์มือถือทำไมเราจะวางไม่ได้ ? เพราะสิ่งที่ละเอียดกว่านี้ ก็คือคนที่เรารัก ลำดับต่อไปก็คือร่างกายนี้ที่เรารักมากที่สุด ถ้าเราวางสิ่งหยาบไม่ได้ สิ่งละเอียดทั้งหลายเหล่านี้เราก็ไม่สามารถที่จะวางได้เช่นกัน
การจะละวางนั้น เราต้องรักษาศีลทุกสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นละเมิดศีล สติสมาธิจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก จดจ่ออยู่กับอารมณ์ปัจจุบันตรงหน้า ไม่ไปไขว้เขวกับสิ่งยั่วยวนต่าง ๆ ที่มาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีปัญญามองเห็นทุกข์เห็นโทษว่าร่างนี้หาความดีไม่ได้
ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาจนหลับตาลงไปมีแต่ความทุกข์ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาทุกข์ก็ไม่ควรที่จะมีสำหรับเราอีก ถ้าหากว่าตายลงไปเมื่อไรเราควรไปพระนิพพานแห่งเดียว ถ้าหากว่าทุกท่านสามารถวางกำลังใจเช่นนี้ได้ ละวางเครื่องถ่วงต่าง ๆ รอบข้างเราลงไปได้ เราก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน
ลำดับต่อไปก็ให้ทุกคนตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๐
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2017 เมื่อ 05:25
|