ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 14-04-2015, 17:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,899 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้จึงอยากเตือนสติทุกท่านว่า การปฏิบัติของเราท่านทั้งหลายนั้น ยังขาดความเพียรอยู่มาก เราสามารถกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกได้ทุกเวลาที่ต้องการหรือไม่ ? เราสามารถทรงฌานได้ทุกเวลาที่ต้องการหรือไม่ ? เราใช้ปัญญาพิจารณาวิปัสสนาญาณจนรู้แจ้งแทงตลอดในทุกสถานหรือไม่ ? ถ้าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ยังมีคำตอบอยู่ว่า "ไม่" ก็แปลว่าเรายังใช้ความเพียรของเราไม่พอ

การที่เราจะเพียรพยายามในลักษณะของไฟสุมขอน คือไปเรื่อย ๆ โดยไม่ท้อถอยนั้น ต้องมีกำลังของสมาธิเป็นตัวช่วยหนุน เราจึงไม่สามารถที่จะทิ้งลมหายใจเข้าออกได้ เพราะลมหายใจเข้าออกเป็นตัวสร้างสมาธิที่ดีที่สุด ถ้าหากสมาธิของเราทรงตัว กำลังของเราก็จะเข้มแข็งทั้งกายและใจ ปฏิบัติเท่าไรก็ไม่เบื่อหน่าย

ทุกท่านจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออกของเรา ไปพร้อม ๆ กับการชำระศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ทำความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างจริงใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ แล้วตั้งเป้าเอาไว้ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เรากระทำ ก็เพื่อพระนิพพานเท่านั้น

ถ้าสามารถรักษากำลังใจอย่างนี้เอาไว้ได้ทุกวันโดยไม่ทิ้งลมหายใจเข้าออก ท่านทั้งหลายก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงมรรคถึงผลได้ แต่ถ้าท่านทอดทิ้งความเพียรในส่วนนี้ ก็คือไม่ได้ตามดู ตามรู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ได้ชำระจิตของตนเองให้บริสุทธิ์ ไม่ได้ทำความเคารพพระรัตนตรัยอย่างจริงใจ และท้ายสุดไม่ได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าเมื่อตายไปแล้วจะเข้าสู่พระนิพพาน การปฏิบัติของเราก็ถือว่าทำไปแล้วสูญเปล่า

เมื่อท่านทั้งหลายรู้แล้วว่าจุดบกพร่องอยู่ตรงที่ใด จะทำอย่างไรถึงจะแก้ไขจุดบกพร่องนั้นได้ ก็ขอให้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาทุ่มเทในการปฏิบัติของเราไป เมื่อเลิกจากสถานที่นี้แล้วก็อย่าทิ้งการปฏิบัติ แต่ต้องประคับประคองอารมณ์ของเราเอาไว้ตลอดเวลา ให้สติอยู่กับตัวเฉพาะหน้า อยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา เพื่อที่จะระงับ รัก โลภ โกรธ หลง ลงไปชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ปัญญาห้ำหั่นกิเลสนั้นให้ดับดิ้นสิ้นไป

ลำดับต่อไป ขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๘

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา