ข้อสุดท้ายคือ วิมังสา ต้องหมั่นไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอ ๆ ที่ปัจจุบันนี้ต่างประเทศนำเอาไปเป็นทฤษฎีในการสรุปและประเมินผล ซึ่งความจริงแล้วพระพุทธเจ้าตรัสไว้ ๒,๖๐๐ ปีเศษแล้ว
วิมังสาที่ไต่ตรองทบทวนนั้น ก็เพื่อที่จะได้มั่นใจว่า เรากระทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ยังตรงต่อเป้าหมายหรือไม่ ? ขาดระยะทางอยู่ใกล้ไกลเท่าไร ? เป็นต้น เราจะได้ใช้ความเพียร ใช้กำลังใจที่จดจ่อปักมั่น ใช้ความยินดีที่กระทำสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ได้อย่างเต็มที่และถูกต้องตรงตามเป้าหมายที่วางเอาไว้
ดังนั้น...ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติธรรมในลักษณะของเป็นคนเก่า ทำมานานแต่ไม่เกิดผล ให้พิจารณาดูว่าเราเองนั้นขาดตัวอิทธิบาท ๔ หรือไม่ ?
ประการที่สอง ที่อยากจะบอกกล่าว ก็คือ อานาปานสติ คือการระลึกถึงลมหายใจเข้าออก ซึ่งเป็นพื้นฐานของกองกรรมฐานทั้งปวง ซึ่งถ้าท่านทั้งหลายขาดอานาปานสติกรรมฐานควบไปแล้ว กองกรรมฐานใด ๆ ทำไปก็ไม่เกิดผล เพราะว่าขาดหลักหรือว่าขาดพื้นฐานที่มั่นคงเพียงพอ ซึ่งจะทำให้สิ่งทั้งหลายที่เราทำนั้นพังไปเสียหายไปโดยง่าย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:40
|