ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 22-08-2023, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,610
ได้ให้อนุโมทนา: 151,798
ได้รับอนุโมทนา 4,413,151 ครั้ง ใน 34,200 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยอาตมภาพเรียนอยู่กองโรงเรียนของทหาร ครูฝึกเขาบอกว่า "เวลานอนของท่านยังมีอีกมากในหลุมศพ" แปลว่าตอนนี้อย่าเพิ่งนอน..!

การกิน การนอน การเสพกาม การเสวยอำนาจ ทั้ง ๔ อย่างนี้ ถ้าไม่ใช่บุคคลผู้เห็นภัยในวัฏสงสารจริง ๆ แล้ว ไม่สามารถที่จะละได้

บางคนตกเป็นทาสปาก ทาสลิ้นของตัวเอง จะกินอะไรก็หามาให้ แต่ร่างกายไม่เคยฟังเรา กินแล้วจงอย่าหิวอีก ก็ไม่ฟัง กินแล้วจงอย่าป่วย ก็ไม่ฟัง กินแล้วจงอย่าตาย ยิ่งไม่ฟังใหญ่เลย แล้วจะกินไปทำไม..!

แต่พออดข้าวหน่อยเดียว ตั้งใจเต็มที่เลยว่าจะต้องลดความอ้วนให้ได้ อดอาหารมื้อแรกไม่ถึง ๑๕ นาที ปวดหัวแทบตาย ต้องไปกินแล้ว เพราะว่ากลัวตาย..!

ระบบเมตาบอลิซึมของร่างกายของเราต้องการความเคยชิน ถ้าเราไม่มีให้สัก ๒-๓ วันติดกัน ระบบจะจำได้ว่าตอนนี้ไม่มีให้กิน วันถัดไปก็จะจำได้ว่าตอนนี้ไม่มีให้กินแล้ว ก็จะเลิกอาละวาดไปเอง ตอนที่ร่างกายอาละวาดเพราะกลัวเราจะตาย ก็จะแสดงออกให้รู้ว่าถ้าไม่กินแล้วจะเป็นอย่างนี้ หิวไส้จะขาด ไม่ก็ปวดหัวแทบแตก นั่นเป็นระบบเตือนของร่างกาย เราก็แค่บอกกับร่างกายว่า "ตอนนี้ไม่มี เอ็งกลับไปนอนซะดี ๆ" พอ ๓ วันผ่านไป ร่างกายก็จะรู้ว่า มื้อนี้ ตอนนี้ ไม่มีอาหารให้อีกแล้ว ก็จะไม่ทวง

เพียงแต่ว่าพวกเรามักจะทนการทวงของร่างกายไม่ไหว ก็เลยยอมกินทุกที ทำให้ลดความอ้วนไม่สำเร็จบ้าง รักษาศีล ๘ ไม่สำเร็จบ้าง อย่างที่อาตมภาพบอกว่า ถ้าใครห้ามปากตัวเองได้ จะรักษาศีลได้ทุกข้อ ต่อให้เป็นศีล ๒๒๗ ข้อของพระก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะว่ากำลังใจในการหักห้ามตนเองไม่ให้ละเมิดศีล กับกำลังใจในการหักห้ามตนเองไม่ให้กินนั้น ใช้กำลังใจเท่ากัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2023 เมื่อ 03:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา