สมัยอาตมภาพเรียนอยู่กองโรงเรียนของทหาร ครูฝึกเขาบอกว่า "เวลานอนของท่านยังมีอีกมากในหลุมศพ" แปลว่าตอนนี้อย่าเพิ่งนอน..!
การกิน การนอน การเสพกาม การเสวยอำนาจ ทั้ง ๔ อย่างนี้ ถ้าไม่ใช่บุคคลผู้เห็นภัยในวัฏสงสารจริง ๆ แล้ว ไม่สามารถที่จะละได้
บางคนตกเป็นทาสปาก ทาสลิ้นของตัวเอง จะกินอะไรก็หามาให้ แต่ร่างกายไม่เคยฟังเรา กินแล้วจงอย่าหิวอีก ก็ไม่ฟัง กินแล้วจงอย่าป่วย ก็ไม่ฟัง กินแล้วจงอย่าตาย ยิ่งไม่ฟังใหญ่เลย แล้วจะกินไปทำไม..!
แต่พออดข้าวหน่อยเดียว ตั้งใจเต็มที่เลยว่าจะต้องลดความอ้วนให้ได้ อดอาหารมื้อแรกไม่ถึง ๑๕ นาที ปวดหัวแทบตาย ต้องไปกินแล้ว เพราะว่ากลัวตาย..!
ระบบเมตาบอลิซึมของร่างกายของเราต้องการความเคยชิน ถ้าเราไม่มีให้สัก ๒-๓ วันติดกัน ระบบจะจำได้ว่าตอนนี้ไม่มีให้กิน วันถัดไปก็จะจำได้ว่าตอนนี้ไม่มีให้กินแล้ว ก็จะเลิกอาละวาดไปเอง ตอนที่ร่างกายอาละวาดเพราะกลัวเราจะตาย ก็จะแสดงออกให้รู้ว่าถ้าไม่กินแล้วจะเป็นอย่างนี้ หิวไส้จะขาด ไม่ก็ปวดหัวแทบแตก นั่นเป็นระบบเตือนของร่างกาย เราก็แค่บอกกับร่างกายว่า "ตอนนี้ไม่มี เอ็งกลับไปนอนซะดี ๆ" พอ ๓ วันผ่านไป ร่างกายก็จะรู้ว่า มื้อนี้ ตอนนี้ ไม่มีอาหารให้อีกแล้ว ก็จะไม่ทวง
เพียงแต่ว่าพวกเรามักจะทนการทวงของร่างกายไม่ไหว ก็เลยยอมกินทุกที ทำให้ลดความอ้วนไม่สำเร็จบ้าง รักษาศีล ๘ ไม่สำเร็จบ้าง อย่างที่อาตมภาพบอกว่า ถ้าใครห้ามปากตัวเองได้ จะรักษาศีลได้ทุกข้อ ต่อให้เป็นศีล ๒๒๗ ข้อของพระก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะว่ากำลังใจในการหักห้ามตนเองไม่ให้ละเมิดศีล กับกำลังใจในการหักห้ามตนเองไม่ให้กินนั้น ใช้กำลังใจเท่ากัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2023 เมื่อ 03:22
|