ถาม : หลวงพ่อเคยบอกว่าคนที่ได้อภิญญาสมาบัติ สามารถที่จะไปบังคับหรือสู้กับเทวดาได้ เพราะว่ากำลังอภิญญาสมาบัติเป็นกำลังพรหม แล้วอย่างนี้ต้องได้ถึงระดับใดครับ? แม้แต่ท่านท้าวมหาพรหมท่านก็เป็นเทวดาอยู่
ตอบ : ต้องดูด้วย...ดูด้วยว่าเทวดาท่านนั้นทรงฌานสมาบัติได้หรือเปล่า ? ถ้าทรงฌานสมาบัติได้ในความเป็นทิพย์ของท่าน...ท่านคล่องตัวโดยอัตโนมัติ อย่างของเรามัวแต่มาขยับทรงฌานสี่ เสร็จแล้วคลายกำลังใจไปอธิษฐาน ก็แบนอยู่ตรงนั้นแหละ เพราะเทวดาทั้งหมดนั้นไม่ใช่แค่เทวดาในความคิดของเรา...ว่าไม่ใช่พรหม หลายท่านมีความสามารถถึงขนาดเป็นพรหมอนาคามี แต่ท่านต้องการอยู่แค่นั้น
เคยมีพระภูมิเจ้าที่เป็นพระอนาคามี ปกติท่านต้องไปเป็นพรหมชั้นสุทธาวาสด้วย ถือว่าสุดยอดของพรหมเลย แต่ท่านอยู่แค่ภุมมเทวดาไม่ใช่อากาสเทวดาด้วย หลวงพ่อฤๅษีไปถามว่าทำไมท่านอยู่แค่นี้ ท่านบอกว่าพอใจอยู่แค่นี้ เพราะว่าเคยเจอเพื่อนอยู่ตรงนี้ เพื่อนท่านเคยเป็นภุมมเทวดา ถึงเวลาท่านก็เลยอยู่แค่ตรงนี้ คราวนี้ไปห้ามท่านก็ไม่ได้ด้วย เหมือนไปห้ามเศรษฐีไม่ให้อยู่กระต๊อบ ท่านมีเงินท่านจะอยู่กระต๊อบก็ได้
ถาม : อย่างนี้เทวดาผู้ใหญ่ก็ไม่กล้าใช้งานท่านสิครับ ?
ตอบ : เทวดาท่านมีมารยาทมากกว่าเราเยอะ ไม่ต้องถึงพระอริยเจ้าระดับนั้นหรอก แค่เทวดาชั้นยามาที่ท่านสวดมนต์เป็นประจำ เขาก็ไม่เรียกใช้แล้ว
ถาม : แล้วอย่างนี้เทวดามีการสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิเข้าฌานด้วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : มีเป็นปกติ
ถาม : แล้วทำไมท่านไม่เข้าฌานแล้วกลายเป็นพรหมไปเลยเล่าครับ ?
ตอบ : ในตัวของเขา สมาธิจิตที่ดำเนินไป ระยะเวลานั้นต่างกับโลกมนุษย์มาก อาจจะชั่วไม่กี่ลมหายใจของเขา แต่อาจจะหลายสิบปีของเรา เพราะฉะนั้น..กว่าที่เขาจะสร้างเสริมคุณสมบัติให้ครบว่าเป็นฌานในระดับไหน บางทีเราตายไปแล้วสองรอบ แต่พอคุณสมบัติของท่านครบ ต้องดูด้วยว่าท่านอยากไปไหม ถ้าไม่อยากไป อานิสงส์ที่อยู่ตรงนั้นก็จะยืดยาวไปอีก ประเภทที่ว่าขึ้นไปข้างบนแล้วนั่งเซ็ง อยู่ข้างล่างดีกว่าเพราะพวกเยอะ ถ้านิสัยท่านชอบเฮฮาอยู่ด้วยท่านก็ไม่ไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2010 เมื่อ 03:44
|