ดูแบบคำตอบเดียว
  #22  
เก่า 17-08-2023, 01:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,610
ได้ให้อนุโมทนา: 151,798
ได้รับอนุโมทนา 4,412,736 ครั้ง ใน 34,200 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ว่ามาถึงตรงนี้ก็เพราะว่า เรื่องของการสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตนเอง เราต้องมีจิตสำนึกของตนเอง อย่างที่เมื่อวานเล่าไปว่า ถามโยมคนหนึ่งว่า "โยม..เมื่อไหร่จะเข้าวัด ?" โยมบอกว่า "ลูกยังเล็กเจ้าค่ะ" พอลูกโตเข้าโรงเรียนได้ก็ถามใหม่ "โยม..เมื่อไรจะเข้าวัดเสียที ?" โยมตอบว่า "กำลังเลี้ยงหลานเจ้าค่ะ" อย่างนี้เอ็งไม่ต้องเข้าหรอก รอเขาหามเข้ามาเถอะ..! ตอนนั้นมาก็แบมือรอรดน้ำอย่างเดียว ทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว..!

เรื่องบุญเรื่องกุศลเป็นเรื่องที่พวกเราต้องทำเอง ทำแทนกันไม่ได้ ทำให้ได้ แต่ทำแทนกันไม่ได้ คำว่าทำให้ได้นี่ก็คือ ตอนที่เราตายแล้วคนอื่นทำให้ แต่คราวนี้มีปัญหาที่ว่า อันดับแรก..เขาจะทำให้หรือเปล่า ? อันดับที่สอง..เขาทำถูกวิธีหรือเปล่า ?

ถ้าไม่ได้ครูบาอาจารย์อย่างหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง มาบอกมากล่าวไว้ พวกเราก็ยังไม่รู้เลยว่าการถวายสังฆทานจำเป็นต้องมีอะไรบ้าง ? หลวงพ่อท่านบอกว่า ผีกี่ราย ๆ มาขอบุญให้ถวายสังฆทานให้

อันดับแรก ต้องมีพระพุทธรูปอย่างน้อยหน้าตัก ๕ นิ้วขึ้นไป เพราะว่าจะทำให้มีรัศมีกายสว่างมาก เทวดา นางฟ้า พรหม ตลอดจนพระบนนิพพาน เขาวัดกันด้วยรัศมีกาย ใครมีศักดานุภาพมากกว่าก็มีรัศมีสว่างกว่า

อันดับที่สอง ขอให้มีผ้าอย่างน้อยกว้างคืบยาวคืบ ผ้ากว้างคืบยาวคืบภาษาบาลีเขาเรียกว่าจีวร หรือถ้ามีสตางค์มากก็ซื้อสบงสักผืนก็ได้ ถ้ามีมากกว่านั้นก็ถวายผ้าไตรทั้งชุดไปเลย

อันดับที่สาม ขออาหาร จะเป็นอาหารสดก็ได้ อาหารแห้งก็ได้ ขอให้เป็นอาหาร จะสด จะแห้ง จะน้ำ อะไรได้ทั้งหมด จะทำให้เขามีร่างกายเป็นทิพย์ ไม่ต้องเสียเวลากิน..ก็คืออิ่มบุญ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-08-2023 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา