ที่ว่ามาถึงตรงนี้ก็เพราะว่า เรื่องของการสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตนเอง เราต้องมีจิตสำนึกของตนเอง อย่างที่เมื่อวานเล่าไปว่า ถามโยมคนหนึ่งว่า "โยม..เมื่อไหร่จะเข้าวัด ?" โยมบอกว่า "ลูกยังเล็กเจ้าค่ะ" พอลูกโตเข้าโรงเรียนได้ก็ถามใหม่ "โยม..เมื่อไรจะเข้าวัดเสียที ?" โยมตอบว่า "กำลังเลี้ยงหลานเจ้าค่ะ" อย่างนี้เอ็งไม่ต้องเข้าหรอก รอเขาหามเข้ามาเถอะ..! ตอนนั้นมาก็แบมือรอรดน้ำอย่างเดียว ทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว..!
เรื่องบุญเรื่องกุศลเป็นเรื่องที่พวกเราต้องทำเอง ทำแทนกันไม่ได้ ทำให้ได้ แต่ทำแทนกันไม่ได้ คำว่าทำให้ได้นี่ก็คือ ตอนที่เราตายแล้วคนอื่นทำให้ แต่คราวนี้มีปัญหาที่ว่า อันดับแรก..เขาจะทำให้หรือเปล่า ? อันดับที่สอง..เขาทำถูกวิธีหรือเปล่า ?
ถ้าไม่ได้ครูบาอาจารย์อย่างหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง มาบอกมากล่าวไว้ พวกเราก็ยังไม่รู้เลยว่าการถวายสังฆทานจำเป็นต้องมีอะไรบ้าง ? หลวงพ่อท่านบอกว่า ผีกี่ราย ๆ มาขอบุญให้ถวายสังฆทานให้
อันดับแรก ต้องมีพระพุทธรูปอย่างน้อยหน้าตัก ๕ นิ้วขึ้นไป เพราะว่าจะทำให้มีรัศมีกายสว่างมาก เทวดา นางฟ้า พรหม ตลอดจนพระบนนิพพาน เขาวัดกันด้วยรัศมีกาย ใครมีศักดานุภาพมากกว่าก็มีรัศมีสว่างกว่า
อันดับที่สอง ขอให้มีผ้าอย่างน้อยกว้างคืบยาวคืบ ผ้ากว้างคืบยาวคืบภาษาบาลีเขาเรียกว่าจีวร หรือถ้ามีสตางค์มากก็ซื้อสบงสักผืนก็ได้ ถ้ามีมากกว่านั้นก็ถวายผ้าไตรทั้งชุดไปเลย
อันดับที่สาม ขออาหาร จะเป็นอาหารสดก็ได้ อาหารแห้งก็ได้ ขอให้เป็นอาหาร จะสด จะแห้ง จะน้ำ อะไรได้ทั้งหมด จะทำให้เขามีร่างกายเป็นทิพย์ ไม่ต้องเสียเวลากิน..ก็คืออิ่มบุญ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-08-2023 เมื่อ 03:06
|