"อาตมาก็นึกถึงอริสโตเติล นักปราชญ์กรีก ๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว กล่าวอมตวาจาเอาไว้ว่า “ความดีของคนหมดสิ้นไปทันทีที่เล่นการเมือง” ก็ไม่นึกว่าจะยังใช้ได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่คราวนี้สังคมเปลี่ยนไป คนรุ่นเก่าเล่นการเมืองเพื่อประเทศชาติ คนรุ่นใหม่เล่นการเมืองเพื่อพวกพ้องและตัวกู ความรู้จักพอไม่มี มิตรแท้และศัตรูถาวรไม่มี สภาพเลยออกมาเละเทะดูไม่ได้อย่างที่เห็น
เราจะไปหานักการเมืองน้ำดีแบบสมัยก่อนหายากมาก เพราะว่าทุกคนต่างก็ทำเพื่อประโยชน์ของพวกพ้องและตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ ทั้ง ๆ ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งปัจจุบันก็คือสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ทรงประพฤติปฏิบัติพระจริยวัตรต่าง ๆ เป็นแบบอย่างให้เห็นว่า การทำเพื่อประเทศชาติจริง ๆ นั้นเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ได้ซึมซับเข้าไปเลย เหมือนตักน้ำรดหัวตอ
จะเอานักการเมืองน้ำดีอย่างป๋าเปรม ท่านประธานองคมนตรี ๒ รัชกาลและรัฐบุรุษ ก็ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว เอาอดีตนายกฯ ชวนลงไปก็เหมือนอย่างกับน้ำจืดหยดเดียว จะไปเปลี่ยนน้ำทะเลให้หายเค็มก็เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น..บ้านเราจะวุ่นวายไปอีกนานมาก ได้แต่หวังว่าบารมีของในหลวง สมเด็จพระบรมราชินี ตลอดจนกระทั่งพระสยามเทวาธิราช ว่าจะช่วยให้ไม่ถึงขนาดต้องนองเลือดกัน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2019 เมื่อ 15:35
|