ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 05-06-2012, 15:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,415,141 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕

ให้ทุกคนขยับตัวนั่งในท่าที่สบายของตน ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ตามที่เราเคยชิน หรือมีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ ในระยะนี้ทางราชการและคณะสงฆ์ต่างก็จัดงานเฉลิมฉลองพุทธชยันตีครบ ๒,๖๐๐ ปี การตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า งานทั้งหลายเหล่านั้นล้วนแล้วแต่จัดเพื่อให้เกิดบุญกุศล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศีล สมาธิ หรือปัญญาก็ตาม

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ในวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ทั้งสิ้น แต่ปีนี้เป็นปีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ อยู่ ๒ หน วันวิสาขบูชาจึงเลื่อนมาเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๗

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น พระองค์ท่านเสด็จออกบรรพชาเมื่อพระชนมายุ ๒๙ พรรษา ทรงศึกษาการปฏิบัติจากศาสดาเจ้าลัทธิต่าง ๆ แล้วทรมานพระวรกายด้วยประการทั้งปวงเป็นเวลา ๖ ปีเต็ม ๆ ภายใน ๖ ปีนั้น พระองค์ท่านกระทำสิ่งที่เกินกว่ามนุษย์ปุถุชนทั่วไปจะทำได้ แต่พระองค์ท่านก็สู้อดทน เพื่อหวังประโยชน์สุขของพวกเราเป็นใหญ่ เนื่องจากว่า..พระองค์ท่านได้ตั้งปณิธานว่า ถ้ารู้ธรรมแล้วจะนำมาสั่งสอนสัตว์โลกทั้งหลาย ให้ก้าวล่วงความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งสมัยนั้นใช้คำว่า โมกขธรรม คือ ธรรมะซึ่งนำไปสู่ความหลุดพ้น

สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทนลำบากในสิ่งที่ผู้อื่นทนได้ยาก การทรมานร่างกายนั้น มีทั้งการผ่อนอาหารน้อยลงไปเรื่อย ๆ ฉันวันละคำบ้าง ฉันวันละคำเว้นหนึ่งวันบ้าง ฉันน้อยลงจนเหลือกระทั่งเหลือข้าวเมล็ดเดียวบ้าง และท้ายที่สุด อดอาหารไม่ฉันเป็นเวลานาน ๆ บ้าง

พระบาลีท่านได้บรรยายเอาไว้ว่า พระองค์ท่านผอมซูบ พระนาภีแบนติดสันหลัง ตั้งใจจะเอามือลูบท้อง ก็โดนกระดูกสันหลังด้วย แม้เอามือลูบไปตามแขน ขนที่มีอยู่ก็ร่วงติดมือมา เพราะไม่มีสารอาหารหล่อเลี้ยง แม้ขนาดนั้นพระองค์ก็ยังสู้อดทนปฏิบัติ เพราะมีความปรารถนาที่จะรู้ธรรม แล้วนำมาขนถ่ายสัตว์โลกให้พ้นภัยในวัฏสงสาร

ด้วยความอดกลั้นอดทนและพระปัญญาธิคุณอันล้ำเลิศ เมื่อ ๒,๖๐๐ ปีที่ล่วงแล้วมา พระองค์ท่านจึงได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แขวงเมืองพาราณสี ในแคว้นกาสีหรือประเทศกาสีในสมัยนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2012 เมื่อ 17:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา