ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 16-01-2012, 12:05
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,554 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๔. เรื่องปกิณกธรรมที่ทรงตรัสสอน มีความสำคัญดังนี้

๔.๑ ให้พิจารณาร่างกายลงตรงที่ว่า มันไม่มีแก่นสาร ไม่มีสาระ อันที่จักยึดถืออันใดได้ คน สัตว์ วัตถุธาตุใด ๆ ในโลกนี้เหมือน ๆ กันหมด มีเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีเสื่อมไปในท่ามกลาง และมีการสลายตัวไปในที่สุด โลกนี้ทั้งโลกไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งของเราได้อย่างจริงจัง นี่เป็นความจริงของโลก ให้กำหนดจิตยอมรับอย่างจริงใจ การดำรงชีพอยู่ในโลก ก็สักเพียงแต่ว่าอาศัยชั่วคราวเท่านั้น จิตให้พยายามปล่อยวางในทุกสิ่งทุกอย่างลงเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร่างกายที่อาศัยอยู่นี่แหละ เป็นเครื่องยึดเกาะอันสำคัญที่สุด พยายามพิจารณาร่างกายของตนเองให้มาก

๔.๒ อย่ากังวลใจเรื่องของตนเองและของผู้อื่น เพราะทุกคนในโลกไม่มีใครหนีทุกข์ หนีปัญหาไม่ให้เกิดไปได้ อะไรจักเกิดก็ล้วนเป็นธรรมดาทั้งสิ้น เช่น การเจ็บป่วย ความแก่ ในที่สุดก็ต้องไปหาความตายด้วยกันทุกคน ให้จิตยอมรับนับถือกฎของธรรมดาของการมีร่างกาย จิตจักได้ไม่ทุกข์ตามร่างกายให้มากจนเกินไป ต้องพยายามพิจารณาให้เห็นร่างกายตามความเป็นจริง จนจิตยอมรับนับถือกฎของธรรมดา จิตจักหมดทุกข์และปลดขันธ์ ๕ ลงได้ในที่สุด

๔.๓ เมื่อร่างกายไม่ดี ก็จงอย่าตรากตรำงานให้มากจนเกินไป ให้ยอมรับสภาพร่างกายว่า เวลานี้มันเสื่อมลงไปทุกวันและเข้าหาความตายเข้าไปทุกที อย่าลืมงานทางโลกไม่มีใครทำได้จบ คำว่าเสร็จสมบูรณ์ไม่มี งานทางธรรมคือทางจิต จุดนั้นสำคัญมากกว่า ให้เพียรปฏิบัติไปเพื่อการจบกิจ และให้ยอมรับนับถือสภาพของร่างกายตามความเป็นจริง จิตจักได้ไม่เศร้าหมอง *และให้พิจารณาลงตรงกฎของธรรมดาของร่างกาย* พร้อมทั้งคิดว่าร่างกายอย่างนี้ต่อไปจักไม่มีกับเราอีก ขอมีชาตินี้เป็นร่างกายสุดท้าย ตายเมื่อไหร่ขอไปพระนิพพานเมื่อนั้น

๔.๔ การพิจารณาร่างกาย ให้แยกรูปออกจากเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณให้เด็ดขาด ให้เห็นรูปสักแต่ว่าเป็นรูป เพราะรูปตัวนี้เป็นเหตุให้เกิดอารมณ์พอใจและไม่พอใจเป็นอย่างหนัก เป็นเหตุให้ติดภพ ติดชาติไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการหลงรูปนี่แหละเป็นเรื่องใหญ่ จุดนี้จักต้องใช้อารมณ์ให้หนักหน่อย ถามจิต ตอบจิต ให้จิตยอมรับสภาวะของรูปตามความเป็นจริงว่า รูปนี้ไม่เที่ยง รูปนี้เป็นทุกข์ รูปนี้อนัตตาไปในที่สุด กี่รูปแล้วที่จิตของเราไปเกาะ แล้วรูปเหล่านั้นที่สุดก็หาความทรงตัวไม่ได้ มีแต่สลายตัวไปในที่สุด ถาม-ตอบให้จิตยอมรับ และคลายจากการติดรูปลงได้ ไม่ว่ารูปของเราหรือรูปของคนอื่น ด้วยเหตุจิตจักยอมรับตามความเป็นจริง การหวังจักให้ร่างกายแข็งแรง ก็คือการฝืนสภาวะของรูปเรียกว่า เป็นวิภวตัณหา (จะให้อดีตกลับมาเป็นปัจจุบัน) อันเป็นไปไม่ได้ตามใจหวังจึงเป็นทุกข์ ให้ยอมรับนับถือตามความเป็นจริงของร่างกายที่มันแก่ มันเสื่อมลงไปทุกวัน แม้มันจักตายเราก็ห้ามมันไม่ได้ แล้วจักดิ้นรนฝืนความจริง ให้จิตมันเป็นทุกข์ เพื่อประโยชน์อันใดกัน นี่เรียกว่าจิตฝืนกฏธรรมดาของรูป จึงเรียกว่า จิตยังไม่เข้าถึงธรรม ให้พิจารณาธาตุ ๔ อาการ ๓๒ ปฏิกูลบรรพให้ลึกเข้าไปในรูป แล้วจิตจักคลายความต้องการในรูปให้ทรงตัวลงได้ และจิตจักยอมรับนับถือรูปตามกฎของความเป็นจริง จุดนี้ทุกคนจักต้องช่วยตนเอง ตถาคตเป็นเพียงผู้ชี้แนะให้เท่านั้น ให้หมั่นใช้ความเพียรให้เป็นประโยชน์ แล้วทุกคนก็จักพ้นทุกข์อันเนื่องจากรูปนี้ได้


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๙
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-01-2012 เมื่อ 12:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา