ถาม : มีเคล็ดลับในการลดทิฐิมานะอย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : ไปเกิดใหม่..!
ถาม : จะลดได้หรือครับ ?
ตอบ : ได้..พอเกิดใหม่เป็นเด็ก ขืนมีทิฐิมากผู้ใหญ่ก็ตบบ้องหูเอา..!
ถาม : เอาชาตินี้ก่อน..ใจร้อนครับ
ตอบ : การจะลดทิฐิมานะนั้น อันดับแรก..เราต้องเห็นโทษก่อน ว่าทิฐิมานะทำให้เราโดนร้อยรัดติดกับวัฏสงสาร ไม่สามารถจะหลุดพ้นไปได้ อันดับที่สอง..ต้องเห็นคุณประโยชน์ว่า ถ้าเราลดทิฐิมานะแล้ว จะเกิดประโยชน์แก่ตัวเราและผู้อื่นอย่างไร โดยเฉพาะในส่วนของอปจายนมัย คือ การอ่อนน้อมถ่อมตนนั้น เป็นการได้บุญที่แทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
ในเมื่อเราเห็นโทษและเห็นประโยชน์แล้ว ก็จะค่อย ๆ พยายามลด ละและเลิก ไปเอง แต่ถ้าเราไม่เห็นโทษและเห็นประโยชน์ ส่วนใหญ่ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี แล้วก็แบกไปอย่างเต็มที่ จะว่าไปแล้วสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็ตำหนิใครไม่ได้ เพราะว่าทิฐิมานะเป็นสังโยชน์ใหญ่และละเอียดมากด้วย ต้องมีกำลังความดีสูงมาก จึงจะตัดละได้เด็ดขาด
ถ้าใครตั้งใจลดตรงจุดนี้ สติสมาธิและปัญญาต้องสมบูรณ์พร้อม ถ้าไม่ได้สมบูรณ์พร้อมถึงขนาดนั้น ก็ต้องค่อย ๆ ลด ๆ ค่อย ๆ ละ ไปทีละเล็กละน้อย ถ้าตั้งใจทำ ท้ายสุดก็ทำได้ แต่ถ้าจะเอาทีเดียวเลยต้องดูว่ากำลังเราสู้ไหวไหม ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-10-2012 เมื่อ 12:50
|