ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 21-05-2013, 20:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,538 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปัญญาของเราให้รู้อยู่เสมอว่า ชีวิตนี้เป็นของน้อย จะสูญสิ้นลงไปเมื่อไรก็ไม่รู้แน่ เราควรที่จะสะสมความดีในทาน ศีล ภาวนาให้มากเข้าไว้ ตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว ถ้าไม่เข้าใจว่าพระนิพพานมีสภาพอย่างไร ก็ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เรารักเราชอบมากที่สุด ว่านั่นคือรูปเปรียบแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เรานึกถึงพระองค์ท่านได้คือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านก็คือเราอยู่บนพระนิพพาน

เมื่อวางกำลังใจเช่นนี้ได้แล้ว ก็ย้อนกลับมาดูลมหายใจเข้าออกเป็นหลัก ถ้ายังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ ให้กำหนดดู กำหนดรู้ ลมหายใจเข้าออกของเราไป ถ้าลมหายใจเบาลง คำภาวนาหายไป ก็ให้กำหนดรู้ไว้เช่นนั้น อย่าดิ้นรนอยากให้เป็นอย่างนั้น และอย่าดิ้นรนให้หลุดพ้นจากสภาพเช่นนั้น เรามีหน้าที่ตามดูตามรู้โดยไม่ต้องปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น ให้ทุกคนรักษาสภาพอารมณ์เช่นนี้เอาไว้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกาและเถรี)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2013 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา