การจำพระคาถานี้นั้นง่ายมาก หยาดฝนได้ทำตัวอักษรเป็นสีน้ำเงินไว้ให้
แบ่งการจำเป็นสองส่วน
ส่วนแรกคือส่วน "สีดำ" นั้น ซ้ำเหมือนกันหมดทั้งสามครั้ง
ส่วนที่สองคือสีน้ำเงิน
ส่วนสีน้ำเงินนั้นก็ไล่เป็น พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
นึกถึงความหมายของพระคาถาว่า
พุทธะ คือ พระพุทธเจ้า และ รัตนะ/รัตนัง คือแก้ว รวมกันเป็น พุทธระตะนัง...แล้วไล่ไปว่าบทต่อไปคือ พระธรรม ก็เป็น "ธรรมระตะนัง" และพระสงฆ์ "สังฆะระตะนัง" ตามลำดับ
ส่วนกลางเดี๋ยวค่อยทีหลัง
ส่วนก่อนสุดท้ายนั้นง่าย
"พุทธะเตเชนะ" - เตเชนะ คือ เดช
หมายความว่า เดชแห่งพระพุทธเจ้า..แล้วก็ไล่ไปในบทพระธรรม ก็เป็น ธัมมะเตเชนะ และสังฆะเตเชนะ ตามลำดับ
ที่เหลือก็แค่จำส่วนกลางนั้นสัมพันธ์กับส่วนต้นและสุดท้าย กล่าวคือแต่ละรัตนะนั้นมีคุณด้านใด และเดชแต่ละรัตนะช่วยให้สิ่งใดดับไป
พุทธระตะนัง - หิตัง เทวะมะนุสสานัง (เป็นที่พึ่งแก่หมู่เทวดาและมนุษย์ กล่าวคือ เทวะ - เทวดา และมะนุสสา - มนุษย์)
ธัมมะระตะนัง - ปะริฬาหูปะสะมะนัง (ช่วยระงับความกระวนกระวาย)
สังฆะระตะนัง - อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง (อันนี้จำไม่ยาก เพราะอยู่ในบทอิติปิโสปกติอยู่แล้ว คือพระสงฆ์เป็นผู้ควรแก่การสักการะด้วยของบูชาและการต้อนรับ แปลในความเข้าใจของหยาดฝนคือ เป็นเนื้อนาบุญ)
ต่อมาก็จำเดชว่า เดชของแต่ละรัตนะช่วยดับเรื่องใด
พุทธะเตเชนะ - ทุกขา (เดชแห่งพระพุทธเจ้า ช่วยดับ "ทุกข์")
ธัมมะเตเชนะ - ภะยา (เดชแห่งพระธรรม ช่วยดับ "ภัย")
สังฆะเตเชนะ - โรคา (เดชแห่งพระสงฆ์ ช่วยดับ "โรค")
แยกจำเสร็จแล้วก็มาประกอบกัน แค่นี้ก็จำได้ไวค่ะ
หากหยาดฝนทำให้สับสน ก็ขออภัย..เพียงต้องการแบ่งปันเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการจำพระคาถาเท่านั้น
การท่องนั้น...โดยส่วนตัวทำเช่นนี้ค่ะ
ถ้าขี้เกียจก็ตื่นเช้าหนึ่งจบ ก่อนนอนหนึ่งจบ
ถ้าไม่ขี้เกียจ ไม่สบายหรือเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ เวลารินน้ำดื่มก็ท่องไปด้วยหนึ่งจบ
ขี้เกียจกินยาก็ถือยาในมือ เหม่อ ๆ ถอนหายใจ นึกว่าไม่อยากกินยาเลย เวลาที่นึกก็ท่องได้อีกหนึ่งจบ
ถ้าสวดให้คนอื่น เปลี่ยนจาก "เม" ท้ายบทเป็น "เต"
คือ "...วูปะสะเมนตุ เตฯ"
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 19-02-2017 เมื่อ 00:18
|