ยังมี
มโนสัญเจตนาหาร ตัวนี้คือความมุ่งมั่นของจิต ถ้าตราบใดที่งานนี้ไม่เสร็จ หรือตราบใดที่ภาระในรับผิดชอบไม่เสร็จ จิตนี้จะมุ่งต่อไปไม่เลิก ถึงขนาดอยู่ต่อได้ทั้งที่หมดอายุไปแล้ว ถ้าจะใช้ให้ใช้ตัวนี้แทน
แต่ประเภทที่ชวนออกไปข้างนอก มีเรื่องสำคัญอย่างนั้นอย่างนี้ อย่าไปฟัง มันกำลังหลอกเราอยู่ ถ้าจำเป็นจริง ๆ ออกไปได้ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าหากหลาย ๆ คนมีความจำเป็น ดูว่าภาระนั้นฝากคนอื่นไปได้ไหม ? ถ้าฝากได้ฝากกันไปเลย แล้วเราก็มานั่งดูกิเลสมันดิ้น ดูว่าจะตายไหม ?
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ จริง ๆ แล้วที่เราทำในทาน ในศีล ในภาวนา เป็น
“ตบะ” *** คำว่า ตบะ บาลีเรียกอีกคำว่า
อาตาปี**** ความเพียรในการเผากิเลส ยิ่งเผามากเท่าไร กิเลสก็ยิ่งดิ้นรนมากเท่านั้น ต้องเผาให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย..!
ไม่ใช่เวลามันดิ้นแล้วเราก็ไปผ่อน พอยอมให้ทีไร มันก็เล่นงานเราทุกที ผมเองก็ไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาอบรมพวกท่านนัก ในขณะเดียวกันร่างกายผมก็แย่มาก ๆ กลายเป็นว่าผมเองไม่มั่นใจว่าตัวเองจะอยู่ได้นานเท่าไร
ฉะนั้น..พวกท่านอย่ามั่นใจเกินไป ให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติให้มากที่สุด เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว เราจะได้ยืนหยัดด้วยตัวเองให้เร็วที่สุด เพราะว่า..นอกจากตัวเราแล้ว คนที่หวังพึ่งเรายังมีอยู่ ถ้าเราพึ่งตัวเองไม่ได้แล้วคนอื่นจะพึ่งเราได้อย่างไร ?
------------------------------------------
หมายเหตุ :
***ขุ.ขุ. ๒๕/๕๓ : ขุ.สุ. ๒๕/๓๑๗/๓๗๖ : ขุ.ชา. ๒๘/๒๔๐/๘๖
**** พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ : พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ : ทีฆนิกาย : มหาวรรค : มหาสติปัฏฐานสูตร