ชื่อกระทู้: ตูมันอ้วน!!
ดูแบบคำตอบเดียว
  #42  
เก่า 12-06-2009, 13:00
ตัวแสบจำเป็น's Avatar
ตัวแสบจำเป็น ตัวแสบจำเป็น is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
สถานที่: บางกอก
ข้อความ: 119
ได้ให้อนุโมทนา: 18,697
ได้รับอนุโมทนา 24,566 ครั้ง ใน 954 โพสต์
ตัวแสบจำเป็น is on a distinguished road
Default

พระพุทธเจ้าบอกว่า เวลาเช้า-กลางวันไม่ต้อง ให้ท่องเฉพาะมื้อเย็น
ให้ท่องตอนที่พระเจ้าปเสนทิโกศลกำลังจะเสวยคำสุดท้าย เมื่อพระองค์ได้สติ
จะวางข้าวคำสุดท้ายลง สมัยก่อนเขารับประทานด้วยมือใช่ไหม ให้ดึง
เอาถาดทองนั้นมา แล้วนับดูว่ามีข้าวกี่เมล็ด แล้วรุ่งขึ้นให้ลดข้าวสาร
จำนวนลงเท่านั้น ในมื้อเย็นมื้อเดียว แล้วทำอย่างนั้นไปเรื่อย ๆ ทุกวัน
เท่ากับลดข้าวลงวันละคำเดียว

สุทัศนมาณพก็ไปทำอยู่แบบนั้น พอท่องคาถา พระเจ้าปเสนทิโกศล
ได้สติก็วางข้าวลง สุทัศนมาณพก็นำถาดทองออกไปข้างนอก ไปนับข้าวดู
ว่ามีกี่เม็ด รุ่งเช้าเคยตวงข้าว ๓ ทะนานก็ลดลงเหลือแค่นี้
๒ ทะนานก็ลดลงเหลือแค่นี้ ๑ ทะนานก็ลดลงเหลือแค่นี้ แล้วแต่ว่าเท่าไหร่
ก็ปรากฎว่า พอลดลงไปเรื่อย ๆ อย่างนั้น ก็ไม่ทรมานมาก ก็แค่คำเดียว
วันละคำเดียว ร่างกายมันปรับทัน

พอเวลาผ่านไปหลายเดือน พระเจ้าปเสนทิโกศลก็เริ่มเพรียวลง หุ่นดี
ในวันนั้นพอลูบพุงก็ 'อ้าว.. หายไปแล้ว' พระองค์ท่านก็ตรัสสรรเสริญ
พระพุทธเจ้าว่า

พระตถาคตเจ้า ทรงยังประโยชน์ให้ทั้งในกาลปัจจุบัน และอนาคตเบื้องหน้า

ไอ้คำว่า กาลปัจจุบันก็คือ ตอนนี้เห็นอยู่ว่าตอนนี้ผอมลง แล้วอนาคต
เบื้องหน้าเป็นอย่างไร ไอ้กำลังใจในการละความอยากในอาหาร มันเท่ากับ
กำลังใจที่ห้ามตัวเองไม่ให้ละเมิดศีล ถ้าเราห้ามปากตัวเอง ไม่ให้กินของชอบได้
ไอ้เรื่องห้ามตัวเองไม่ให้ไปทำผิดศีลนั้น กำลังใจมันเท่ากัน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวแสบจำเป็น ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา