ชื่อกระทู้: คิริมานนทสูตร
ดูแบบคำตอบเดียว
  #17  
เก่า 10-02-2010, 09:30
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,886 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๑๐.๔ การให้ทาน การรักษาศีล และบำเพ็ญภาวนาจะเกิดอานิสงส์มาก (เพราะเป็นปฏิบัติบูชา)

“ดูกร..อานนท์ การทำบุญทำทาน การรักษาศีล การเจริญภาวนา ชื่อว่าเดินถูกทางพระนิพพานโดยแท้ จงพากันประพฤติปฏิบัติตามคำสอนที่เราแสดงไว้นี้ ผู้ใดไม่ประพฤติตาม ก็พึงเข้าใจว่า ผู้นั้นเป็นคนนอกพุทธศาสนา (เดียรถีย์)

ตถาคตบัญญัติศีล ๕, ๘, ๑๐, ๒๒๗ ไว้ ก็เพื่อให้สัตว์ยกตนออกจากกองกิเลส ดังนั้น..เมื่อรักษาศีล ๕ ได้แล้ว จงเพียรรักษาศีล ๘, ๑๐ และ ๒๒๗ เป็นลำดับ เพื่อยกตนให้พ้นจากกองกิเลสตามลำดับ จึงจัดได้ว่าไม่เป็นคนหลง เดินตรงเข้าสู่พระนิพพานโดยแท้”

“ดูกร..อานนท์ กุลบุตรผู้เข้ามาบวชในพุทธศาสนา ก็เพื่อความระงับดับกิเลส ไม่อยากจะเกิดมาในโลกเพื่อพบกับความทุกข์จาก ความแก่ ความป่วยไข้ไม่สบาย ความตาย ต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มีความปรารถนาไม่สมหวังอีกต่อไป

ตถาคตอนุญาตให้บวชเพื่อความดับไม่มีเชื้อ ไม่ให้เกิดมาในโลกอีกต่อไป เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็จงตั้งใจรักษาศีล เพื่อความดับกิเลสเถิด ข้อวัตรอันใดที่เป็นไปเพื่อละกิเลสแล้ว จงกระทำข้อวัตรนั้นให้บริบูรณ์เถิด”

๑๐.๕ การบวชเพื่อระงับดับกิเลสเท่านั้น จึงจะเป็นทางสู่พระนิพพาน

“ดูกร..อานนท์ บุคคลผู้ฉลาดทางธรรม ย่อมศึกษาประโยชน์ของการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา รู้ต้นเหตุของกิเลสทั้งหมดว่าล้วนอยู่ที่ใจ จึงต้องดับเหตุที่ใจ รากเหง้าของกิเลสคือ โลภ โกรธ หลง หากตัดรากเหง้าใหญ่ได้ กิเลสอื่น ๆ ก็ดับไปเอง เมื่อเข้าใจดีแล้ว (ตัวเข้าใจคือตัวปัญญา) จึงเข้ามาบวชเพื่อระงับดับกิเลสให้หมดเชื้อ หากไม่หวังตามนี้จงอย่าบวชเสียดีกว่า แต่ตถาคตมิได้ตำหนิว่า ผู้ที่ฉลาดเป็นผู้รู้ทางโลก เป็นผู้ไม่ดีไม่เป็นบุญ ไม่เป็นกุศล หากแต่ว่าเป็นความรู้ที่ผิดไปจากทางสู่พระนิพพานเท่านั้น”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2010 เมื่อ 15:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา