สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีเป็นปกติ แต่ไม่มีใครเห็น จนกระทั่งพระพุทธเจ้าทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว
ปัญญะเปติ ปัฏฐะเปติ จึงนำมาบัญญัติ นำมาก่อตั้ง ก็คือเห็นอยู่อย่างนั้น ก็เลยเอามาจัด เอามาเรียง ทำให้เข้าใจได้ง่ายหน่อย
วิวะระติ วิภัชชะติ นำมาจำแนก นำมาแยกแยะ
อุตตานีกะโรติ ทำของลึกให้ตื้น ก็คือทำของยาก ๆ ให้ง่ายหน่อย จะได้ปฏิบัติกันถูก
เราจะเห็นว่าพระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่า ทุกอย่างไม่เที่ยง ทุกอย่างเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา ฉะนั้น...อย่าไปยึดถืออะไรมากนัก มีก็ใช้ไป มีน้อยก็ใช้น้อย ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีมากก็ใช้มาก ถ้ายังเหลือก็แบ่งปันคนอื่นเขา สร้างบุญสร้างบารมีเอาไว้ ถ้าหากว่ายังไม่หลุดพ้นจากกองทุกข์ อย่างน้อยผลบุญก็ช่วยให้เราประสบแต่สิ่งที่ดี ๆ
ให้ทาน เกิดมาใหม่ก็จะมีฐานะมั่นคง เจริญ ร่ำรวย
รักษาศีล เกิดมาก็เป็นผู้มีร่างกายสมบูรณ์ มีหน้าตาสวยงาม มีจิตใจดีงาม
เจริญภาวนา เกิดมาก็มีปัญญามาก จะเรียนอะไรก็ง่ายไปหมด มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็แก้ไขได้ง่าย ๆ ตั้งใจปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคเพื่อผล ก็สามารถที่จะบรรลุมรรคผลอย่างที่ต้องการได้
เพราะฉะนั้น...บุญจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ เพราะว่าจะก่อให้เกิดเฉพาะสิ่งที่ดี ๆ เท่านั้น เพียงแต่เราสร้างบุญกับบาปปนกันไปปนกันมา ก็เลยดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แล้วแต่เวรแต่กรรม
เดี๋ยวเรามาสร้างความดีกันต่อ ตั้งใจสมาทานพระกรรมฐานกันนะ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2022 เมื่อ 01:37
|