ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 18-02-2019, 19:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,658 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๒ มีญาติโยมซึ่งเปลี่ยนแนวปฏิบัติ จากการปฏิบัติแนวเคลื่อนไหว มาปฏิบัติตามแนวของอานาปานสติ ซึ่งอาตมาได้ย้ำอยู่เสมอว่าการเปลี่ยนแนวปฏิบัตินั้น ถ้าเป็นไปได้อย่าเปลี่ยน การปฏิบัติทุกแนวถ้าเราทำเป็น สามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ทั้งหมด

โดยเฉพาะสภาพจิตของเราจะเคยชินกับแนวการปฏิบัติและคำภาวนาแต่เดิม เมื่อถึงเวลามาเปลี่ยนวิธีใหม่ ก็จะมีการยื้อแย่งกันระหว่างของเก่ากับของใหม่ ท้ายที่สุดหลายคนก็อยู่ในลักษณะที่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ คือของเก่าก็ไม่ได้ ของใหม่ก็ไม่ดี เพราะว่าเราเปลี่ยนแนวการปฏิบัติ นอกจากนี้โยมยังตั้งใจมากเกินไป ก็คือทุ่มเทให้กับการปฏิบัติจนเครียด ไปไหนไม่ถูก ทำอะไรต่อไปไม่เป็น

เพราะว่าสภาพจิตของเรา ถ้าเน้นในเรื่องของอานาปานสติอย่างเดียว ก็แปลว่าเราเน้นในเรื่องของสมถกรรมฐานล้วน ๆ เมื่อถึงเวลาเราภาวนาไปจนเต็มที่แล้ว สภาพจิตจะเหมือนอย่างกับเดินชนผนัง ไปต่อไม่ได้ ก็จะถอยออกมา แต่ว่าโยมก็ไปบังคับให้เดินต่อ เมื่อบังคับไปนาน ๆ ก็เกิดอาการเครียดมาก จนทำอะไรไม่ถูก

ซึ่งในลักษณะนี้ต้องบอกว่ามีความอยากมากจนเกินไป ก็คืออยากได้ดี กลายเป็นเอากิเลสนำหน้า เอาตัณหานำทาง โอกาสที่จะได้ดีย่อมเป็นไปไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-02-2019 เมื่อ 20:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา