มองไปเบื้องหน้าเหมือนระลอกคลื่นสีดำนิลไหวไปมาตามการโยกคอหลอกล่อของจงอาง ทำท่าจะฉกกัดทันทีที่เห็นการเคลื่อนไหวผิดปกติจากฝ่ายมนุษย์ งูจงอางใหญ่ขนาดนี้เพียงตัวเดียวที่ฉกใส่ พิษอันร้ายกาจเกินพอในการทำลายชีวิตหนึ่งให้สิ้นสุดยุติลงได้อย่างง่ายดาย พวกมันยังแห่กันออกมาจากข้างทางถึง ๑๒ ตัว จะข่มขวัญผู้ที่พบเห็นถึงปานไหน
ครูบาธรรมชัยยืนนิ่งสงบแต่ไม่ประหวั่นกับพวกงูจงอาง เห็นพวกมันเป็นเพียงสัตว์โลกผู้เวียนว่ายตายเกิดอันน่าสมเพช หมุนเวียนเปลี่ยนอัตภาพจากมนุษย์ไปเป็นสัตว์ จากสัตว์ชนิดน่าสะพรึงกลัวไปเป็นสัตว์อื่นอีก หมุนเวียนเปลี่ยนไปโดยไม่สามารถกำหนดชะตากรรมของตนเอง จึงเป็นสัตว์ดุร้ายผู้ควรค่าแก่ความเมตตาสงสารอย่างยิ่ง
ท่านดำริเช่นนั้นแล้ว กำหนดจิตแผ่เมตตาอันไม่มีประมาณ ให้แก่ปวงงูจงอางที่เลื้อยออกมารายล้อมรอบบริเวณที่ท่านยืนอยู่
งูจงอางปกติจะไม่สยบต่ออำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น แม้กระทั่งพญาช้างสารมันยังกล้าแผ่แม่เบี้ยเข้าฉกกัดต่อสู้ แต่เมื่อดวงจิตอันกล้าไปด้วยตบะธรรมของครูบาธรรมชัย แผ่อำนาจเมตตาอันชุ่มเย็นไปถึงดวงจิตของพวกมัน งูจงอางผู้ดุร้ายทั้ง ๑๒ ตัว ค่อย ๆ ทยอยหุบแม่เบี้ยละความดุที่เป็นธรรมชาติวิสัย ค่อย ๆ เลื้อยกลับไปยังที่อยู่ของตนจนหมดสิ้น
ครูบาธรรมชัยปักกลดอยู่ตรงบริเวณนั้น ใกล้กับจอมปลวกที่พวกงูจงอางอาศัยอยู่ ท่านจาริกธุดงค์กระทั่งศรัทธาในพระสัทธรรมขององค์พระบรมศาสดาอย่างแน่นแฟ้น เชื่อแน่ว่าผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบอยู่ที่แห่งใดก็ปลอดภัยในทุกประการ อยู่กลางป่าย่อมต้องเจอสัตว์นานาชนิดเป็นเรี่องธรรมดา ถ้าเจอสัตว์ดุร้ายแล้วนึกสะดุ้งหวาดเสียว จะท่องธุดงค์รอดได้อย่างไร
อีกคราวหนึ่ง.....
ครูบาธรรมชัยท่องธุดงค์ไปทางป่าเชียงดาว เมื่อไปถึง "ขุนห้วยแม่ตาด" ซึ่งเป็นต้นกำเนิด "แม่น้ำตาด" นั้น เวลาเย็นแดดผีตากผ้าอ้อมทอแสงเหลืองอร่ามจับผืนฟ้า เมื่อแดดผีตากผ้าอ้อมเลือนลับไปจากท้องฟ้า ราตรีกาลอันมืดทะมึนจะมาเยือนทั่วผืนป่า
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 23-01-2010 เมื่อ 12:07
|