ดูแบบคำตอบเดียว
  #64  
เก่า 12-12-2017, 20:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,511
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,957 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อได้กำลังของกสิณทั้ง ๑๐ กองแล้ว ลูกได้ใช้กำลังนี้เป็นฐานของการพิจารณาเรื่องกามราคะและปฏิฆะ โดยใช้คำภาวนาควบคู่กับลมหายใจเข้าออกว่า "อสุภกสิณัง อสุภกสิณัง อสุภกสิณัง" และนึกถึงคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุงเรื่องของอธิจิตสิกขาว่า การละเรื่องกามราคะกับปฏิฆะนั้น จิตต้องมีสมาธิที่เข้มแข็งมากจึงจะละได้

เหตุนี้กสิณ ๑๐ ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงให้ลูกฝึก ก็เพื่อวัตถุประสงค์ให้เป็นกำลังของสมาธินั่นเอง การใคร่ครวญของลูกดังกล่าวนี้ผิดพลาดประการใดบ้าง ? ขอหลวงพ่อโปรดเมตตาสงเคราะห์ลูกด้วย

ตอบ : อยากให้ทำแบบหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ถ้าด้วยอำนาจกสิณ ๑๐ เราต้องการจะสร้างอะไรขึ้นมาก็แค่นึกเท่านั้น หลวงพ่อพริ้งท่านจึงสร้างซากอสุภะไว้ตรงหน้าเป็นตัว ๆ จับได้ต้องได้เลย สี กลิ่น รส มาครบ แล้วเราก็พิจารณาของเราไป เท่าที่ได้ยินมามีรายเดียว คือหลวงพ่อพริ้ง ที่ทำได้ในลักษณะอย่างนี้

แปลว่ากสิณ ๑๐ ของเราอย่าทำให้เสียของ เนื่องจากว่าในสมัยปัจจุบัน การจะพิจารณาอสุภกรรมฐานเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะว่าไม่ได้มีป่าช้าที่เขาเอาศพไปทิ้งเหมือนกับสมัยก่อน มีอย่างเดียวคือเราสร้างศพขึ้นมาด้วยอำนาจกสิณของเราเอง เสร็จแล้วเราก็พิจารณาของเราไป พอสภาพจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ตัวกามราคะจะหายไป ถ้าในส่วนของกามราคะหายไป ปฏิฆะที่เหลือก็พลอยหายไปด้วย เพราะกำลังเท่ากัน

ไป...ตั้งใจทำไว้ดีแล้ว แต่ว่าอย่าลืมพระนิพพาน หัวใจสุดท้ายของเราก่อนนอน ตั้งใจอยู่เสมอว่าเราจะไปพระนิพพาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2017 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา