อุปสรรคของผู้ฝึกมโนมยิทธิ
เมื่อครูฝึกท่านบอกว่าให้ยกจิตขึ้นสู่พระจุฬามณีเจดีย์สถาน ให้นึกเดี๋ยวนี้เลยว่าตรงหน้าของเราตอนนี้คือพระจุฬามณี ให้เรากำหนดใจว่ากำลังอยู่ตรงหน้าพระจุฬามณี ถ้าเขาถามว่าพระจุฬามณีมีสภาพอย่างไร ? ความรู้สึกแรกบอกว่าอย่างไร ก็ให้ตอบไปตามนั้นเลย ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนคนอื่นเขา โดยเฉพาะถ้าฝึกร่วมกัน
ถึงเวลาคนหนึ่งเขาตอบอย่างนี้แล้ว เอ๊ะ..เรารู้สึกไม่เหมือนเขา แล้วไปตอบอีกอย่างหนึ่งคิดว่าผิด แบบนั้นก็เจ๊งเลย คนที่จะรู้สึกเหมือนกัน ตอบเหมือนกันจะต้องลงที่เดียวกัน เช่น สมมติบอกว่าพวกเราไปกรุงเทพฯ คนแรกมาบางแค คนที่สองมาลาดพร้าว อีกคนมาพระโขนง สรุปสามคนไปกรุงเทพฯ เหมือนกัน..ใช่ไหม ? แล้วเราจะเห็นเหมือนกันไหม ?
โลกของเราทั้งโลกหย่อนลงไปสวรรค์ชั้นหนึ่งก็เท่ากับถั่วเม็ดเล็ก ๆ ในเข่งเท่านั้นเอง สวรรค์ใหญ่กว่านั้นตั้งเยอะ..!
เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าตอบไปคนละทิศ คนละทาง คนละเรื่อง คนละโลกกับเขา ก็ไม่ต้องสงสัย เพราะว่านั่นคือที่ ๆ เราไป ขณะที่เขาตอบคือที่ ๆ เขาไป เราต้องมั่นใจในตัวของเราเอง โดยเอาความรู้สึกแรกเป็นหลัก
แรก ๆ จะมองไม่เห็น เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วสมาธิยังไม่ดี การตัดกิเลสก็ไม่คล่องตัว จะเหมือนกับคลำของในที่มืด เขาส่งของให้เราชิ้นหนึ่ง เราก็ต้องหลับตา ถึงไม่หลับตาก็มองไม่เห็น คลำไปคลำมาสักพักหนึ่งก็ตอบได้ เช่น สมุดเล่มนี้ เราก็จะทราบว่าเป็นสมุด ถ้าไม่เห็นแล้วเราคลำบ่อย ๆ จับบ่อย ๆ ก็จะบอกได้เลยว่าเป็นสมุด ความคล่องตัวจะมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2015 เมื่อ 14:10
|