ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 23-12-2014, 18:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,677 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อมองออกไปข้างนอก แล้วโอกาสที่เกิดโทษมีมากกว่า ก็พยายามมองกลับมาที่ตัวเอง ว่าเราพัฒนา กาย วาจา ใจ ของเราขึ้นเท่าไร พระพุทธเจ้าตรัสว่า “บรรพชิต (นักบวช) พึงพิจารณาเนือง ๆ ว่า กาย วาจา ใจ ที่ดีกว่านี้ยังมีอยู่อีก เราต้องทำ กาย วาจา ใจ ของเราให้ดีกว่านี้” นี่เป็นแค่ ๑ ใน ๑๐ ข้อเท่านั้น

บางข้อบอกว่า "วันคืนล่วงไป ๆ เราทั้งหลายทำอะไรอยู่ ?" หายใจทิ้งไปเฉย ๆ หรือเปล่า ? ได้กำหนดสติรู้ตามไปจนกลายเป็นมหาสติ เกิดมหากุศลแก่ตน หรือว่าหายใจทิ้งไปเฉย ๆ โดยไม่มีสติ นอกจากไม่ได้อะไรขึ้นมาแล้ว บางทียังฟุ้งซ่านไปสู่ รัก โลภ โกรธ หลง อีกต่างหาก ดังนั้น..ในการปฏิบัติของพวกเราครั้งนี้ ก็ขอให้เน้นการดูและแก้ไข กาย วาจา ใจ ของเราเอง เพื่อความก้าวหน้ามากว่านี้

ทำไมถึงต้องดู ? ก็เพราะว่าถ้าเราดูคนอื่นมีแต่จะเกิดโทษ คือถ้าไปอิจฉาเขา เรื่องของธรรมะก็ถอยหลัง เพราะใจของเราเศร้าหมอง ถ้าไปทะยานอยาก อยากได้แบบเขา แล้วควบคุมความอยากไม่อยู่ จิตใจของเราก็เศร้าหมอง ถ้าไปน้อยเนื้อต่ำใจ ว่าทำเท่าไรไม่ได้อย่างเขาเสียที ใจเราก็เศร้าหมองอีก ต้องพยายามควบคุมตนเองเอาไว้ อยากไม่ใช่ความผิด แต่ถ้าอยากแล้วไม่พยายามทำให้ได้อย่างที่ตนเองอยาก โดยเฉพาะในด้านของความอยากดี นั่นถึงจะเป็นความผิด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2014 เมื่อ 03:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 71 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา