ดูแบบคำตอบเดียว
  #12  
เก่า 24-12-2014, 18:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,645 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น..พ่อแม่ญาติพี่น้องอะไรของเราทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องทดสอบทั้งนั้น อาตมาเองโดนแม่ถามแล้วถามอีกตั้งแต่อายุเพิ่งครบ ๒๐ ว่า "เมื่อไรจะบวชให้แม่ ?" ก็ผลัดผ่อนเรื่อยมาจนอายุ ๒๗ ปี ตัดสินใจว่าจะบวชแล้ว แต่ปรากฏว่าก่อนนั้น ๓ ปีโยมแม่โดนรถชน ไม่มีใครดูแล อาตมาก็ต้องดูแลตลอด จนกระทั่งรักษาหายดีกลับมาตามเดิม

ต้องบอกว่าชีวิตนี้เป็นเวรเป็นกรรม สมัยที่ดูแลพ่ออยู่ พี่น้องให้เหตุผลว่า เป็นลูกชายคนโตที่ยังไม่ได้ทำงาน ยังเรียนอยู่ ก็ดูแลพ่อไป ๖ ปีเต็ม ๆ ทั้งกลางวันกลางคืน ง่วงนอนอย่างกับตกนรกทั้งเป็น จนกระทั่งพ่อตาย เรียนจบมัธยมต้นแล้วก็ไปทำงาน คราวนี้แม่ป่วย เอ็งไปดูแลแม่ ถามว่าทำไมต้องเป็นข้าวะ ? “เอ็งเป็นลูกชายคนโตที่ยังไม่ได้แต่งงาน” ตอนโน้นเขาบอกว่า “เอ็งเป็นลูกชายคนโตที่ยังไม่ได้ทำงาน” โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง

ดูแลแม่เสร็จสรรพเห็นว่าปกติดีแล้ว กาลเวลาสมควรแก่ตนเองแล้ว ก็ขอลาแม่ไปบวช จากที่ถามเช้า ถามกลางวัน ถามเย็นว่า "เมื่อไรจะบวชให้แม่ ?" แต่พอไปลาบวชแม่บอกว่า “เอ็งไปบวชแล้วข้าจะอยู่กับใคร ?” เห็นหรือยังว่าเขาทดสอบแบบไหน ? แต่ขอโทษ..ข้อสอบแบบนี้ทำอะไรอาตมาไม่ได้หรอก บอกกับแม่ไปว่า “ลูกแม่มีตั้ง ๑๓ คน ถ้าไม่มีใครดูแลแม่ ก็ทนดูแลตัวเองไปเถอะ ผมไปแล้ว” ถ้าไม่เด็ดขาดนี่เสร็จเลย อยู่ตรงนั้นแหละ ดูแลแม่ต่อไปเถอะ แม่เพิ่งจะตายเมื่อ ๓ - ๔ ปีที่แล้วนี่เอง แล้วจะได้บวชไหมนั่น ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2014 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 72 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา