ดูแบบคำตอบเดียว
  #16  
เก่า 28-12-2014, 12:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,669 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ผมอยากให้พวกคุณพิจารณาอะไรบางอย่าง พระพุทธเจ้าตรัสว่า “อัตตนา โจทยัตตานัง จงกล่าวโทษโจทย์ตนเองอยู่เสมอ” พระองค์ท่านไม่ให้โทษใคร หากแต่ให้กล่าวโทษโจทย์ตนเองอยู่เสมอ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกผมว่า “อย่าสนใจจริยาคนอื่น” หลวงปู่บุดดาท่านบอกผมว่า “กายเดียวจิตเดียวก็นิโรธ หลายกายหลายจิตมันยุ่ง” หลวงปู่มหาอำพันท่านบอกว่า “อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด” คุณเห็นหรือเปล่าว่า ๔-๕ อย่างที่ว่ามาเป็นเรื่องเดียวกันหมด ? เรื่องเดียวกันไหม ? มีใครว่าคนละเรื่องบ้าง ? เป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด

แต่คราวนี้ว่าบริบท ก็คือสถานการณ์ที่ท่านพูด หรือว่าสิ่งที่ท่านพบเห็นมา เป็นประสบการณ์ส่วนตัวในการปฏิบัติของท่านซึ่งไม่เหมือนกัน คำพูดที่ท่านใช้กล่าวออกมาก็เลยไม่เหมือนกัน แต่ความหมายทั้งหมดก็คืออย่างเดียวกัน เป็นการยืนยันว่าเรื่องของธรรมะเป็นสากล ใครทำก็มีสิทธิ์ได้ทั้งนั้น แล้วก็จะได้ตามวาสนาบารมี ตามแง่มุมที่ตนเองทำมา พระพุทธเจ้าถึงได้มีอัครสาวก อัครสาวิกา มีมหาสาวก มีมหาสาวิกา มีปกติสาวกเยอะแยะไปหมด เพราะแต่ละท่านสร้างมาไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน

แต่ว่าเรื่องของการชำระจิตให้ผ่องใสจากกิเลสนั้นเท่ากัน สามารถเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมเหมือนกัน ท่านใช้คำว่า ขีณา ชาติ วุสิตัง พรัหมะจะริยัง กะตัง กะระณียัง นาปะรัง อิตถัตตายาติ ปะชานาตีติ บอกว่า “รู้ตัวว่าหมดสิ้นซึ่งกิเลสแล้ว ชาติคือการเกิดสิ้นสุดลงแล้ว การปฏิบัติเพื่อพรหมจรรย์นี้จบแล้ว” ถ้าทุกคนตั้งใจทำ มีสิทธิ์เหมือนกันในการที่จะบรรลุมรรคผล

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า ตราบใดที่ธรรมะยังสมบูรณ์บริบูรณ์อยู่ พระธรรมวินัยยังประกอบไปด้วยมรรค ๘ อยู่ ตราบนั้นสมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ยังมีอยู่ในพระธรรมวินัยนั้น ก็แปลว่าพระโสดาบันก็ดี พระสกทาคามีก็ดี พระอนาคามีก็ดี พระอรหันต์ก็ดี ยังมีอยู่ครบถ้วน เพียงแต่เรารู้จักท่านหรือไม่เท่านั้น แล้วในเมื่อมีอยู่ครบถ้วน เราเองก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นอย่างนั้นด้วย โยมทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นอย่างนั้นด้วย แต่ถ้าหากว่าไม่มีความเด็ดขาดจริงจังในการปฏิบัติ ก็เท่ากับว่าเราตั้งท่าสละสิทธิ์แล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2014 เมื่อ 18:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา