ดูแบบคำตอบเดียว
  #8  
เก่า 19-05-2009, 15:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เห็นกล่าวถึงคาถากัน เลยขออนุญาตเล่าเกี่ยวกับเรื่องการใช้คาถานะคะ
หลวงพ่อเคยพูดในเรื่องคาถาว่า "อยากเอาคาถาอะไรมีหมด ขอให้เรียนอย่างเดียวเท่านั้นแหละ" แล้วท่านก็ยกตัวอย่างทิดสันต์ให้ฟัง

ท่านเล่าว่า ที่วัดท่าขนุนจะมีระเบียบให้เทศน์ทุกวันพระ ถ้าเป็นในช่วงเข้าพรรษาจะวันพระใหญ่หรือวันพระเล็กก็มีเทศน์ แล้วเทศน์สองรอบ คือรอบเช้าและรอบกลางคืน รอบเช้าเทศน์เก้าโมงเช้า รอบกลางคืนเทศน์หลังทำวัตรเสร็จ

ช่วงที่ทิดสันต์บวชนั้น เป็นช่วงฤดูฝน ฝนฟ้าตกแบบถล่มทลาย ตกวันละแปดรอบหรือสิบรอบ ทิดสันต์ก็กลัวว่าถ้าฝนตกแล้วคนจะไม่มาฟังเทศน์กัน ดังนั้นพอทิดสันต์ทำวัตรเสร็จก็กลับห้องไปภาวนา แล้วก็หลับ...หลับไปเป็นชั่วโมง ๆ (ทิดสันต์ภาวนาคาถาหยุดฝนจนตัดหลับไป) มาสะดุ้งตื่นตอนเขาตีระฆังให้ฉันเช้า ปรากฏว่าได้ผล การภาวนาของทิดสันต์ทำให้ฝนแล้งไปเจ็ดวัน !!!

หลังจากหลวงพ่อสอนวิธีการห้ามฝนแก่ทิดสันต์ไปแล้ว ตั้งแต่นั้นมาท่านก็เลิกใช้ ท่านบอกทิดสันต์ไปว่า "ถ้าเอ็งไม่ทำ..เอ็งกับข้าก็เปียกเท่ากัน..!" สรุปว่าทิดสันต์รับหน้าที่ห้ามฝนเมื่อถึงเวลาจำเป็นค่ะ

ทว่าหลวงพ่อก็พูดถึงทิดสันต์ว่า "เท่าที่ดู...รู้ว่ามีหลายครั้ง ที่กำลังใจเขาไม่มั่นคง ที่รู้ว่ากำลังใจเขาไม่มั่นคงก็เพราะว่า ฟ้ามืดจนจะติดหัวอยู่แล้วและฝนก็ลงแปะ ๆ แล้ว คนรับทำหน้าที่ (หมายถึงทิดสันต์) ก็เลิ่กลั่ก ๆ แสดงว่าเอาไม่อยู่แน่แล้ว"

หลวงพ่อก็บอกทิดสันต์ไปว่า "เชื่อผมไหม..ฝนไม่ตก ?"
ทิดสันก็บอกว่า "จริงหรือครับอาจารย์ ?"

หลวงพ่อบอกว่า "เราต้องมั่นใจ ถ้ากำลังใจเสีย คาถาไม่ได้ผล"
ปรากฏว่าวันนั้นฝนก็ลงได้แค่แปะ ๆ ท่านก็เดินกันไป สักพักฝนก็หยุด แต่ทว่าฟ้ายังมืดอยู่ ท่านบอกว่า "อย่าให้กลับนะ ถ้ากลับถึงหอฉันเมื่อไร ฝนจะเทเหมือนฟ้ารั่วทันที"

"เพราะว่าในเรื่องของธรรมชาติ ลม ฟ้า ฝน ไฟ อะไรก็ตามเราไม่มีสิทธิ์ไปห้าม มันฝืนธรรมชาติ แต่จะขอให้เร็วให้ช้า ให้สูงให้ต่ำ ให้ซ้ายให้ขวา ให้ก่อนให้หลังนะพอได้ เพราะฉะนั้น..อย่าคิดไปห้ามเชียว ต่อให้ได้อภิญญาใหญ่ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวมีจะรางวัลติดปลายนวมมา"

เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่พอจะเก็บเกี่ยวมาได้จากพระอาจารย์ค่ะ หวังว่าคงมีประโยชน์บ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 05-04-2012 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา