เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๒
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราทั้งหมด ไหลตามลมหายใจเข้าไปพร้อมกับคำภาวนา หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราทั้งหมด ไหลตามลมหายใจออกมาพร้อมกับคำภาวนา จะจับการกระทบของลมกี่ฐานก็ได้ จะเป็นฐานเดียว ๓ ฐาน ๗ ฐาน หรือรู้ตลอดกองลมก็แล้วแต่เรา จะใช้คำภาวนาว่าอย่างไรก็อยู่ที่เราถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ อยากจะพูดเรื่องอื่นแต่พูดไม่ได้... เพราะว่าได้รับคำเตือนจากครูบาอาจารย์ให้พูดถึงเรื่องจริยาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นโทษใหญ่ เนื่องจากว่าช่วง ๒-๓ วันที่ผ่านมา มีเรื่องที่เรียกว่าดราม่าเกิดขึ้น ก็เพราะว่ามีบุคคลที่ร้องเพลงและวาดรูป ที่ทำให้เกิดการปรามาสพระรัตนตรัย
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้น ถ้าบุคคลที่จิตหยาบอยู่จะไม่เห็นว่าเป็นโทษ ดังนั้น...การที่เราเป็นนักปฏิบัติธรรม ยิ่งปฏิบัติ สภาพจิตต้องยิ่งละเอียด ต้องระมัดระวังจริยาเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรา ว่าจะเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่น ดังที่อาตมาเองสมัยเมื่อ ๓๐-๔๐ ปีที่แล้ว ได้เขียนเอาไว้หน้าสมุดบันทึกของตัวเองว่า “ขออย่าให้กาย วาจา และใจของเรา เป็นทุกข์เป็นโทษต่อผู้หนึ่งผู้ใดเลย” เพราะว่าสิ่งที่เราทำนั้น อาจจะก่อให้เกิดกรรมโดยไม่รู้ตัว
จริยาเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเราที่ทำแล้ว ทำให้รู้ว่าเราเองนั้นกำลังใจยังหยาบอยู่ อย่างเช่นว่า ไปวัด ไปปฏิบัติธรรม ไปหาพระหาเจ้า เราก็แต่งตัวตามสบาย นุ่งขาสั้นบ้าง ใส่เสื้อแขนกุดบ้าง ใส่สายเดี่ยวบ้าง เปิดหลังเปิดหน้าบ้าง ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สิ่งที่เราทำนั้น ถ้าหากว่าพระภิกษุสามเณรท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากว่าการปฏิบัติของท่านยังไม่เข้มแข็งหนักแน่นพอ เราก็จะก่อทุกข์ก่อโทษให้เกิดกับท่านได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-09-2019 เมื่อ 20:07
|