เราจะเห็นว่า เมื่อวันก่อนครูบาอาจารย์ที่ท่านบอกกล่าวพวกเราไปแล้ว เกี่ยวกับเรื่องของเครื่องรางของขลังในวรรณคดีไทย เห็นชัดไหมครับ ขุนช้างจะออกไปตามล่าขุนแผนที่แย่งนางวันทองไป สมัยนั้นยังเป็นนางพิมพิลาไลยอยู่ ยังไม่เป็นวันทอง เขาบอกว่า
จัดแจงแต่งตัวนุ่งยก........................เข็มขัดรัดอกแล้วโจงหาง
ผูกตัวเข้าเป็นพรวนล้วนเครื่องราง........พระปรอทขอดหว่างมงคลวง
เครื่องรางเพียบเลย แต่ยังมีพระ แล้วใช้พระคาดหัวไป ถือว่าเป็นของสูง
ลูกไข่ดันทองแดงกำแพงเพชร..............ไข่เป็ดเป็นหินขมิ้นผง
อันนี้จะเป็นพวกคต ก็คือวัตถุกายสิทธิ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่ว่าในส่วนของขมิ้นนั้นเป็นการเสกผงขมิ้นทาตัว ทาหน้า แล้วแต่ตำราของตน
ตระกรุดโทนของท่านอาจารย์คง หลวงปู่คง วัดแค จังหวัดสุพรรณบุรี ยุคนั้นท่านดังมาก ได้ตะกรุดโทนมาคู่ตัว สมัยก่อนทำยากมาก ครูบาอาจารย์จะทำแค่วาระสำคัญ ๆ เท่านั้น
แล้วอมองค์ภควัมล้ำจังงัง พระปิดตา พระควัมปติ
ฉะนั้น..ในส่วนนี้เราจะเห็นว่า เรื่องของเครื่องรางนั้นเกิดขึ้นมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ที่มาของเครื่องราง อันดับแรกเลย เครื่องรางนั้นเกิดจากสัญลักษณ์บอกฝ่าย สัญลักษณ์บอกฝ่ายนี่เริ่มจากการเขียนสี ไม่ว่าจะเป็นสีธรรมชาติ ยางไม้ เลือดสัตว์ หรือว่าใช้วัสดุที่ได้จากสัตว์ อย่างเช่น เขี้ยว งา เขา เอามาแต่งตัว หรือว่าอย่างพวกอินเดียแดงใช้ขนนกอินทรี หรือว่าบางเผ่าใช้ขนนกกระเต็น แล้วก็มีรอยสักอีกต่างหาก
เรื่องพวกนี้ อันดับแรก ๆ เลยคือการบอกว่าเป็นพวกเดียวกัน หลังจากนั้น บรรดาผู้ที่มีสัมผัสพิเศษ ที่ตอนหลังจะได้รับการยกขึ้นเป็นพวกหมอผีหรือหมอยา จะรู้ว่าอะไรที่มีพลังงาน หรือว่ารับพลังงานได้ดีที่สุด ก็จะนำมาติดตัว แรก ๆ ก็ของตัวเอง จากนั้นก็ให้ผู้นำสำคัญของเผ่า สิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อเป็นกำลังใจในการออกรบ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2023 เมื่อ 16:07
|