ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 29-10-2009, 20:34
วาโยรัตนะ วาโยรัตนะ is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 550
ได้ให้อนุโมทนา: 13,972
ได้รับอนุโมทนา 45,909 ครั้ง ใน 953 โพสต์
วาโยรัตนะ is on a distinguished road
Default

๒."แปลกที่-ผีไม่ดุ"

เมื่อมาถึงวัดท่าขนุน (วันที่ ๒๖ มิถุนายน) เห็นหลวงพ่อกำลังวุ่น ๆ เกี่ยวกับงานรับยันต์เกราะเพชร เข้าไปรายงานตัว พร้อมส่งเอกสารที่ทางวัดฉลองออกรับรองมาให้ งานนี้รู้ตัวก่อนหน้าแล้วว่าหลวงพ่อท่านให้อยู่ที่ "กุฏิแดง" (พวก รัก-ยม ส่งข้อความมาบอก ก๊ากกกกก ๆ )

แต่ยังโชคดีที่มีเพื่อนร่วมห้องคือ ท่านเก้า และ ท่านบอย (ตอนนั้นทั้งสองคนยังไม่บวชจะเรียกว่า "นาค" ก็ได้) งานนี้ก็ไม่ทราบว่าใครจะเป็นที่พึ่งให้ใคร พระพึ่งโยมหรือโยมพึ่งพระกันแน่? เพราะเรื่องของกุฏิแดงนั้นได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานแล้ว ว่า "ผีดุ"

ตอนหลวงพ่อท่านนำเดินขึ้นกุฏิ ท่านก็ก้มกราบลงกับพื้น พอถึงหน้าพระท่านก็กราบพระ เคยถามท่านว่า หลวงพ่อที่กุฏิแดงชั้นสองหลวงพ่อกราบอะไรครับ หลวงพ่อท่านก็ตอบว่า "ผมกราบไปตามเรื่องตามราว" เพื่อความไม่ประมาท เราทั้งสามท่านจึงพากันกราบแทบทุกครั้งไม่ว่าจะขึ้นหรือจะลง "ความนอบน้อมเป็นสมบัติของคนกลัวผี แต่จะทำให้ผีกลัวหรือไม่นั้น..ผมไม่รู้" เซ็งอารมณ์ตรงที่ห้องน้ำมันอยู่ชั้นล่างนอกตัวกุฏิออกไปอีก ตกกลางคืนเล่นต้อง "ทนและทน" สุดท้ายทนอั้นไม่ไหว โรคนิ่วจะรับประทานเสียก่อน งานนี้มันต้องวัดดวงว่าจะเจอ "ท่านผี" ประจำกุฏิแดงไหม หากจะเรียก "นาค" ทั้งสองท่านให้ไปเป็นเพื่อน มันก็เสียภาพพจน์พระใหม่ไฟแรงหมด

จะลุกจะนั่งภาวนากันเอาไว้ก่อน คำภาวนามีเท่าไหร่เอามาใช้หมดแถมพระเครื่องหลวงพ่อก็พกกันชนิดที่ว่า ห่างตัวไม่ได้ เดินขึ้นเดินลงที่ไรมันเสียวสันหลังวูบ ๆ แต่เหตุการณ์ก็ผ่านไปได้ด้วยดีจนได้ย้ายไปอยู่ "กุฏิเตชะไพบูลย์" ช่วงก่อนเข้าพรรษาเล็กน้อยนั้น พระใหม่ต่างคนก็ต่างยังกลัว ๆ อยู่ แถม "ทิดเอ" ผู้ชำนาญการเพราะบวชมาตั้งแต่สมัยก่อนมาเล่าเรื่องผีให้ฟังกันอีก

ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : โยมเมื่อก่อนวัดท่าขนุนผีดุจริง ๆ หรือ โยมเคยเจอบ้างไหมตอนบวช

ทิดเอ : หลวงพี่..ยิ่งกว่าเจออีกครับ ขนาดผมนอนอ่านหนังสือในห้อง คิดว่าเณรที่ไหน มันไม่หลับไม่นอนเที่ยวเดินหน้ากุฏิสองคน แถมเดินคุยกันด้วย พอเลิกสนใจมัน อยู่ ๆ มันเข้ามาในกุฏิผมเลย ทั้ง ๆ ที่ประตูปิดอยู่ กลายเป็นผีผู้หญิงสองตน ผมต้องกระโดดถีบประตูกุฏิออกมา

ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ :(หน้าซีดเล็กน้อย) แล้วแบบอื่น ๆ มีไหม

ทิดเอ : เจอกันบ่อยครับหลวงพี่สมัยนั้น ผมออกมานั่งนอกชานเพลิน ๆ พวกเล่นโผล่มา ตาจะหลุดซะข้างหนึ่ง พระสมัยนั้นก่อนเข้ากุฏิจะต้องท่องคาถาหว่านทรายทุกองค์ใครไม่ท่องมีโดน

ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : แล้วตอนนั้นโยมพักกุฏิห้องไหนละ (จะได้ไม่แวะเวียนเดินผ่านไป)

ทิดเอ : ห้องที่หลวงพี่อยู่ตอนนี้นั้นแหละ

ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ :(หน้าที่ว่าซีด ตอนนี้มันยิ่งกว่าตอนนั้นอีก และแล้วความเงียบก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา ขนาดเสียงจิ้งจกร้องทักยังดังเข้าไปสู่ขั้วหัวใจเลย).........จริงหรือทิด? ขอตัว หลวงพี่ขอเข้าห้องก่อนนะ.... หลังจากนั้นไม่นานการเจรจาก็เริ่มขึ้น.....

" คุณผีทั้งหลายครับ หลวงพี่มาบวชหวังตั้งใจจะทดแทนคุณ "พ่อ-แม่" ก่อนบวชก็ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาเยอะ บุญก็ทำมาเยอะ ยินดีให้ทุกท่าน แต่ขอร้องอย่ามารบกวนกันหรือถ้าจะมาจริง ๆ ก็มาในฝันนะ มาแบบสวย ๆ ด้วยนะ หลวงพี่จะอุทิศบุญให้เต็มที่ บุญสร้างพระขรรค์โสฬสก็มีนะ บุญใหญ่ด้วยนะ ใครมารังแกหรือมาหยอก งานนี้อย่าหวังว่าหลวงพี่จะอุทิศบุญให้นะ ถ้าหลวงพี่เป็นอะไรไป รับรองจะตามล้างตามเช็ดให้ถึงที่สุด ขอทุกท่านกรุณารับทราบและสงเคราะห์กันตามนี้นะ"............(บรรยากาศมันน่าขนลุกมาก)

หลวงตาชาติ อยู่อีกห้องหนึ่งข้าง ๆ ถึงกับตะโกนมาแถมหัวเราะว่า "เอาแบบนี้เลยหรือท่านรัตน์"

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


กาแฟ(ขาดไม่ได้)กับประคำทำด้วย "เมล็ดต้นมะค่าโมง" เก็บมาจากข้าง ๆ กุฏิหลวงพ่อ ในรูปนี้ตอนนั้นน้ำหนัก ๘๓ กิโลกรัม ตอนนี้เหลือ ๗๔ กิโลกรัม ตอนแรกไปปรับตัวเข้ากับอากาศไม่ค่อยได้เป็นภูมิแพ้ป่วยตลอด จนทนไม่ไหวตอนหลังทำวัตรเย็นเลยกราบเรียนหลวงพ่อว่า

ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : หลวงพ่อครับไม่ทราบกระผมเป็นอะไรป่วยตลอด ขอเมตตาหลวงพ่อเคาะหัวให้ทีขอรับ

แล้วหลวงพ่อก็จารยันต์ด้วยมือที่หัวพร้อม ๆ กับหัวเราะแล้วพูดว่า "สงสัยไข้หวัดหมู"



ฉันกาแฟอย่างเป็นระเบียบที่"กุฏิเตชะไพบูลย์"
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 06-07-2018 เมื่อ 20:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา