ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 13-03-2011, 15:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,511
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,957 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเป็นดังนี้ สิ่งที่เราจะลืมไม่ได้ก็คือ เราต้องทรงความไม่ประมาทอยู่เสมอ ตั้งใจปฏิบัติในศีลทุกสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ถึงขนาดยอมให้ตัวตายดีกว่าศีลขาด ตั้งความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างจริงใจ เนื่องจากว่าเห็นคุณความดีของท่านทั้งหลายเหล่านั้นจริง ๆ ว่า

พระพุทธเจ้าทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ ตรัสรู้แล้วยังทรงลำบากตรากตรำ สั่งสอนสัตว์โลกทั้งหลายเพื่อให้เข้าถึงความหลุดพ้นอยู่ถึง ๔๕ ปีเต็ม ๆ พระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้ตกไปในอบายภูมิ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติมีแต่ความเจริญ ก้าวสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนท้ายสุดก็หลุดพ้นไปพระนิพพาน

พระสงฆ์สาวกขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เมื่อปฏิบัติได้แล้วก็นำธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาสั่งสอนเผยแผ่ต่อ ทำให้พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถอยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงพวกเราทั้งหลาย

เมื่อเราเห็นคุณความดีอย่างนี้ เราก็จะเกิดความเคารพคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงใจ เป็นการเคารพที่ถูกที่ คือไม่ยึดติดในตัวบุคคล แต่เป็นการยึดคุณความดี ที่เป็นพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณจริง ๆ ก็เหลือข้อสุดท้ายคือเราต้องไม่ประมาท รู้อยู่เสมอว่าเราต้องตาย ในเมื่อเราตายแล้ว ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาทุกข์อย่างนี้ เราไม่ต้องการอีก เราต้องการจุดเดียวคือพระนิพพาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2011 เมื่อ 16:03
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา