ถนนแปดสิบกว่าสาย เดินเป็นชั่วโมงเพิ่งมาถึงสาย ๒๙ รองเท้าเริ่มกัดเสียแล้ว จึงเรียกสามล้อถีบนั่งไปแทน เขาขอ ๑๕๐ ท่านนาวินต่อเหลือร้อยเดียว เขาถีบน่องโป่งไปเลย พอเห็นระยะทางแล้วสงสารคนถีบ แค่กำแพงพระราชวังด้านละ ๒ ไมล์ เจอเข้าไปสองด้านก็ตกห้า ก.ม.กว่า ๆ..! ขออภัยจริง ๆ โยมเอ๋ย...
ถึงตีนเขาคราวนี้เดินลูกเดียว ขึ้นไปกราบพระบนยอดเขา แล้วกลับลงมากราบหลวงพ่อมหาศิลา วัดเจ้าดอจี ชมพระไตรปิฎกหินอ่อน ๑,๗๗๔ แผ่น ที่วัดซันดามุนี จากนั้นข้ามมาวัดกุโธดอ (ราชประสงค์) ชมพระไตรปิฎกของเก่าสมัยพระเจ้ามินดง ๗๒๙ แผ่น และถ่ายรูปกับต้นพิกุลยักษ์อายุ ๒๕๐ ปี ที่ปลูกไว้ตั้งแต่เริ่มสร้างวัด...
เดินทะลุซอยมาชมมหาศาลาอะตูมาชิ (ไร้เทียมทัน) ศาลาไม้สักแกะสลักทั้งหลังของวัดชุยนานดอ (สุวรรณมเหสี) แล้วข้ามไปชมมหาวิทยาลัยสงฆ์มัณฑะเลย์ ที่ไทยออกทุนช่วยพม่าสร้าง ซึ่งอยู่แค่คนละฝั่งถนนกับวัดสุวรรณมเหสี...
คราวนี้จ่าย ๑๐๐ จั๊ตให้สามล้อ มาส่งยังเรือมังกรที่จอดอยู่ในคูเมืองข้างพระราชวังมัณฑะเลย์ เขาทำเป็นศูนย์รวมสำหรับขายของที่ระลึก ซึ่งแน่นอนว่าแพงไปเสียทุกอย่าง แล้วจ่ายอีกร้อยให้แท็กซี่ไปส่งที่ตลาดซีโจว ครูบาน้อยท่านจะซื้อซาวอะเบ้าท์ ๑ เครื่อง บอกว่าเอาไว้ฟังเทปธรรมะของหลวงพ่อวัดท่าซุง...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2013 เมื่อ 17:38
|