ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 28-11-2009, 21:05
หนุมานเชิญธง's Avatar
หนุมานเชิญธง หนุมานเชิญธง is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Nov 2009
สถานที่: ลี้ ลำพูน
ข้อความ: 25
ได้ให้อนุโมทนา: 1,218
ได้รับอนุโมทนา 2,969 ครั้ง ใน 74 โพสต์
หนุมานเชิญธง is on a distinguished road
Default

คำพูดของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำทั้งหมดนี้ ความสำคัญอยู่ที่ประโยคสุดท้ายตรง “พระคอยบอก” เนื่องจากหลวงพ่อฤๅษีลิงดำพูดอยู่เสมอว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด หรือเสด็จมาเพื่อทรงแนะนำให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ คนส่วนหนึ่งเกิดความสงสัยว่าเป็นไปไม่ได้ เมื่อนิพพานแล้วก็ต้องสูญ จะเสด็จมาทำไม หลวงพ่อคอยอึดอัดกับคำพูดเหล่านี้มาก จึงพยายามหาพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือ เพื่อยืนยันในสิ่งที่ท่านพูด ก็เห็นหลวงพ่อพระราชกวี วัดโสมนัส ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพระโพธิญาณ เป็นพระจริงพระแท้ที่พูดความสัตย์ความจริง และอยู่คนละสาย คือหลวงพ่อฤๅษีลิงดำอยู่มหานิกาย ส่วนหลวงพ่อพระราชกวีท่านอยู่สายธรรมยุต โดยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำพูดว่า

“ถ้าใครสงสัยที่อาตมาพูดว่าพระพุทธเจ้ามีจริง พระพุทธเจ้าบอกอย่างนั้น พระพุทธเจ้าบอกอย่างนี้ ถ้าจะบอกว่าพระพุทธเจ้าทรงนิพพานไปแล้ว มีความสูญ ขอให้ไปถามเจ้าคุณพระราชกวีได้ หรือไปถามคนที่เขาปฏิบัติได้ให้ได้จริง ๆ แล้วกัน ที่เขาทำทิพจักขุญาณได้ก็ดี ทำอภิญญาได้ก็ดี เขาตอบได้แน่นอน”

การเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของหลวงพ่อพระราชกวีโดยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำครั้งนี้ อยู่ในช่วงสุดท้ายของหลวงพ่อพระราชกวีแล้ว คนทั้งหลายจึงบ่นเสียดายที่ท่านปกปิดตัวเอง ไม่ยอมแพร่งพรายให้สาธารณชนรับรู้ ตามคำยืนยันของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ จับใจความได้ว่า ท่านไม่ได้มุ่งพระอรหันต์ แต่มุ่งพระพุทธภูมิ

ท่านหลวงพ่อพระราชกวีไม่ละเลยในการอบรมสั่งสอนสานุศิษย์ของท่าน ให้รู้จักคำสอนแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ในหนังสือวิชาการทางพระพุทธศาสนาที่ทรงคุณค่ายิ่ง ที่ท่านตั้งชื่อว่า “สมณธรรม” เป็นแสงสว่างส่องทางเดิน หรือ สะพานทอดสู่มรรคผลนิพพานโดยตรง หากใครลงมือปฏิบัติตาม หรือปรารถนาจะบรรลุมรรคผลนิพพานในปัจจุบันชาตินี้ ก็สามารถที่จะลงมือปฏิบัติได้ด้วยตนเอง บอกรายละเอียดการปฏิบัติเบื้องต้น ทั้งสมถะและวิปัสสนาไว้ชัดเจน เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักปฏิบัติใหม่ ท่านผู้รู้ชมว่า นี่แหละคือของจริงของแท้ ที่ท่านเจ้าคุณราชกวีนำออกมาตีแผ่ ขอคัดมาให้อ่านบางตอนดังนี้

“พระพุทธเจ้าตรัสว่า มีสติคือการนึกตั้งเฉพาะหน้า คราวนี้จะปรากฏความรู้สึก ๔ ประการ คือ นึกหรือระลึก เรียกว่าสติ รู้สึกชัดทราบชัดว่ากำลังนึกอยู่ เรียกว่าสัมปชัญญะ ทั้งนึกและรู้สึกตัวนึกอยู่นั้น ก็ยังมีธรรมชาติอีกอย่างหนึ่ง ลอดหรือเล็ดออกไปเกาะหรือนำซึ่งสิ่งใดอื่นมาปรากฏ หรือออกไปในที่ใด ๆ อื่น สิ่งนี้เรียกว่าจิตตะคือใจ กระนี้ก็ยังอาจไม่สงบได้ จึงต้องมีการกระทำให้มีอีก(ภาวนา) และการนี้เรียกว่ากรรมฐาน คือที่ตั้งการกระทำของสติสัมปชัญญะและใจ”

หลวงพ่อพระราชกวีเคยพูดกับศิษย์ของท่าน ที่ขอร้องให้ท่านช่วยสอนกรรมฐานแก่สาธุชน เพราะเห็นทำเลวัดโสมนัสเป็นสัปปายะ มีความเหมาะสมทุกประการ โดยท่านพูดว่า “ถ้าเราจะทำก็ทำได้ แต่เราไม่ทำ เขาให้เรามาเกิด ไม่ให้มาทำหน้าที่นี้” แสดงให้เห็นว่า ท่านรู้จักหน้าที่ของท่าน คือการบำเพ็ญเนกขัมมบารมีในชาตินี้ในฐานะพระโพธิสัตว์ ขณะเดียวกันก็เอื้อประโยชน์แก่สาธุชน ผู้ใฝ่ใจใคร่รู้แนวทางปฏิบัติให้บรรลุมรรคผลนิพพานตามหลักพระพุทธศาสนา
__________________
เมื่อนภาไร้เมฆบดบัง ทั่วทุกด้านสว่างไสว
ลมพัดโชยเรื่อย ๆ ไกล ขุนเขาไร้เสียงจำเนียงนรรจ์
วันนี้น่ายินดี หยุดชีวีที่ผูกพัน ไร้ทุกข์โศกในทุกวัน ทิ้งขันธ์ ๕ ไม่พบเจอ


ครูบาเจ้าชัยยะลังก๋าอรัญญาวาสีมหาเถร

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หนุมานเชิญธง : 29-11-2009 เมื่อ 23:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หนุมานเชิญธง ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา