ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 04-09-2010, 20:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราเรียนเราต้องรู้ให้จริง ปัจจุบันนี้ผมเรียนผมก็ทุ่มเทกับการเรียน บางทีเพื่อนฝูงเขาขาดบ้างไม่ขาดบ้าง ยุ่งไปหมด ผมไปทุกวัน ตั้งใจเรียนจริง ๆ ถ้าเขาถามผมว่าทำไม ผมบอกเขาได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ผมเรียนแล้วผมต้องรู้ ถึงเวลาคนอื่นถาม ผมต้องบอกเขาได้

จำไว้นะเณร.. “เรียนแล้วต้องรู้ รู้แล้วต้องสอนคนอื่นเขาได้” ต้องให้แตกฉานจริง ๆ อย่างเณรต้องปล้ำให้ได้ประโยค ๖ ถ้ารู้ว่าเรียนไม่ไหว เอาแค่ ๖ ก็พอ เพราะอะไรรู้ไหม ? ประโยค ๖ ขอสมณศักดิ์ได้เป็นพระครูชั้นพิเศษเลย

ถ้าหากว่าความดีมากขอเป็นเจ้าคุณได้เลย แต่ถ้าประโยค ๗ รอไปเถอะ ประโยค ๗ ต้องรอเป็นเจ้าคุณเท่านั้น บางคนรอตั้ง ๒๐ ปี ยังไม่ได้เป็นเลย แล้วเขาใช้วิธีไหน ?

พอได้ประโยค ๖ เขาก็ขอพระครูชั้นพิเศษไว้ก่อน หลับหูหลับตาสอบประโยค ๗ ไปอีกสี่ปีห้าปี ได้เมื่อไรก็ช่างหัวมัน พอได้ก็ปรับให้เป็นเจ้าคุณได้แล้วสิ สบายไป..เพราะฉะนั้น ถ้าเรียนแล้วรู้ว่าไม่ไหว เอาแค่ประโยค ๖ แต่ถ้าไหวเรียนเอาให้ยันประโยค ๙ ไปเลย

ถ้าหากว่าเณรเรียนไม่ตกจริง ๆ เวลา ๘ ปี อายุ ๒๑ ขึ้น ๒๒ ได้เป็นนาคหลวง ในหลวงบวชให้ ชีวิตนี้เณรจะหาความภูมิใจอย่างนี้ได้ยากมาก เพราะว่าแต่ละปี พระทั้งประเทศ ๓ แสนกว่ารูป มีปีที่แล้วมากที่สุด ได้ประโยค ๙ ถึง ๔๐ รูปแต่ว่าเป็นเณรแค่ ๕ รูป

ดังนั้น..เรื่องของการศึกษานั้นสำคัญมาก ปริยัติกับปฏิบัติเป็นของคู่กัน ถ้าไม่มีท่านที่ศึกษาปริยัติ รักษาพระพุทธวจนะคือคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ พระปฏิบัติจะเอาคำสอนที่ไหนมาปฏิบัติ

เราปฏิบัติก็อย่าไปดูถูกพระปริยัติว่าท่านไม่ได้ศึกษาทางด้านนี้ แค่ท่องหนังสืออย่างเดียวก็หัวจะระเบิดแล้ว ถ้าเอาสมาธิกันจริง ๆ ต้องอย่าง หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน* ท่านท่องบาลี ท่องไป ๆ “เฮ้ย..ใครนั่งอยู่นั่นวะ ? แล้วนี่กูเป็นใคร ?”

ท่านท่องไปสมาธิทรงตัว จิตหลุดออกไปข้างนอกเฉยเลย เห็นตัวเองนั่งท่องหนังสืออยู่ “นั่นมันกูนี่หว่า..! แล้วไอ้นี่เป็นใครวะ ?” จะเอาอย่างนั้นบ้างก็ได้นะ

พระปฏิบัติจริง ๆ นั้น ไม่ได้หมายความว่า ต้องหลับตาภาวนาอย่างเดียว ท่องหนังสือก็เป็นสมาธิได้ ทำอะไรก็เป็นสมาธิได้ ข้อให้เอาจิตจดจ่ออยู่ตรงนั้น ของเณรอายุยังน้อย โอกาสยังมากอยู่ ถ้าหากว่าได้เปรียญตั้งแต่ประโยค ๓ ขึ้นไป แล้วมาเรียนพุทธศาสตรบัณฑิตอีก โอ้โฮ..คราวนี้เป็นทั้งคุณมหาเป็นทั้งพุทธศาสตรบัณฑิต จะไปไหนก็ไปได้ทั้งประเทศ

ฉะนั้น..ขอให้ตั้งใจให้ดี โดยเฉพาะแม่ก็ดี หลวงพ่อก็ดี ตั้งความหวังอยู่กับเณรมาก เพราะว่าเณรเป็นคนแรกจริง ๆ ที่เรียนอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่แรก อย่างหลวงพี่มหาเอ** หลวงพี่มหาเค*** ท่านเรียนที่นี่ก่อน แล้วถึงเข้าไปต่อในกรุงเทพฯ


หมายเหตุ:
*พระราชสังวรญาณ(พุธ ฐานิโย ป.ธ. ๔) วัดป่าสาลวัน หมู่ที่ ๑ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
**พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม ป.ธ. ๓ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
***พระมหาธีรวุฒิ ธีรปญฺโญ ป.ธ. ๔ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2010 เมื่อ 19:23
สมาชิก 62 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา