ดูแบบคำตอบเดียว
  #79  
เก่า 04-01-2010, 21:29
วาโยรัตนะ วาโยรัตนะ is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 550
ได้ให้อนุโมทนา: 13,972
ได้รับอนุโมทนา 45,909 ครั้ง ใน 953 โพสต์
วาโยรัตนะ is on a distinguished road
Default

หลังจากผจญกับหนามยักษ์จนได้แผลเป็นที่หอมปากหอมคอกันแล้ว สารถีเท้าช้าง ( คนขับร่างใหญ่ครับ ๕๕๕๕๕ ) พยายามจะเร่งเครื่องขึ้นไปบนเนิน จนแล้วจนรอดเร่งเครื่องอยู่นาน นานจนทุกคนสรุปว่า "จอดรถแล้วออกเดินเท้าไปเลยดีกว่า" หลังจากจอดรถเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับจัดสรรเสบียงในการเคลื่อนย้าย ตามความรับผิดชอบของแต่ละท่านที่ซื้อหากันมา ตามทุนทรัพย์และความจุในการรับประทาน งานนี้เราก็เริมออกเดินทางเดินจริง ๆ จัง ๆ ซะที

สองข้างทางเต็มไปด้วยหญ้าและดอกไม้ป่า สลับกับกอไผ่ลำโต ๆ ผมเดินไล่กวดโยม ๆ จนกลายเป็นนำหน้าโยมไปหลายก้าว บางช่วงจึงได้มีโอกาสหยุดแวะถ่ายภาพไปตามประสาฉายาในหมู่เพื่อน ๆ ที่เล่นกล้อง เรียกกระผม "ธีระพงษ์ เหลียวเลิ่กลั่ก" จินตนาการบรรเจิด เดินนำไปนำมาจนถึงทางสามแยก งานนี้กระผมไม่แน่ใจและต้องขอบอกเลยว่า อย่ามาเชื่อทิพจักขุญาณของกระผมเป็นอันขาด ขนาดเขียนหนังสือผมยังเขียนผิดเลย ถ้าให้ผมตัดสินใจว่าจะไปทางไหน รับรองได้หลงป่ากันเป็นวัน ๆ แน่ ๆ ครับ

รอไม่นานพระครูหน่อยก็นำท้ายขบวนมาถึง พร้อมกับชี้ทางว่าให้ไปทางซ้ายมือ เดินลงไปตัดลำน้ำเล็ก ๆ แล้วเดินขึ้นเนินชันไปอีกนิดหนึ่ง เมื่อเดินขึ้นไปแล้วก็เจอแคร่ไม้ไผ่ที่หน่วยป่าไม้สร้างไว้ เพื่อเป็นจุดพักของนักเดินป่า ใต้ต้นไม้ใหญ่ดูน่าร่มรื่น งานนี้ก็ทนไม่ได้ที่จะต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก

"โยม ๆ.....โยม ๆ มานี่หน่อยสิ รบกวนถ่ายภาพให้หลวงพี่หน่อยนะ.....เจริญพร ขอบคุณมากโยม.....แหม ฝีมือใช้ได้เลยนะ เดี๋ยวไปเจอที่เหมาะ ๆ แล้วหลวงพี่จะรบกวนอีก"

นั่งยังไม่ทันหายเหนื่อยโยม ๆ ก็มากันครบทุกคน คราวนี้พอหันไปมองเนินอีกเนินหนึ่ง โอ้....ทำไมมันถึงได้ชันขนาดนั้น.......งานนี้เล่นเอาโยมสาว ๆ หลายท่านถึงกับถอดใจ

เสียงปลอบใจของทิดดังสวนมาทันที "นี่แหละครับ คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริง"

กระผมมองขึ้นไป โอ้....มันชันประมาณ ๗๕ ถึง ๘๐ องศา งานนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเต็มที่ เพราะดินมันลื่น แถมยังชันอีกต่างหาก ดีที่ว่าพอจะมีขั้นบันไดดินเก่า ๆ ให้พอสังเกตแนวทางในการก้าวไป งานนี้กระผมออกเดินนำไปก่อน เล่นเอาโรคกลัวความสูงกลับมามีบทบาทในชีวิตอีกครั้งครับ ขาสั่นเล็กน้อยแต่ก็ต้องเก็บอาการ อยู่กับสมาธิกับการภาวนาให้ใจมันนิ่ง ก็พอจะประคองตัวไปได้ คราวนี้ก็เหลือแต่เอาใจช่วยโยม ๆ ทั้งหลาย และแล้วทุกท่านก็ผ่านมาได้ ด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อันเป็นอีกภาพที่ประทับใจกระผมครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ในภาพเราจะเห็นความชันของพื้นที่ได้อย่างชัดเจน ลักษณะแบบนี้เราเดินขึ้นไป หากจะถามว่ายากหรือไม่ก็ต้องตอบว่า ไม่ยากเท่ากับขาลงที่เราไล่ระดับลงตามความลาดเอียงของไหล่เขา ใครพลาดรับรองได้แผลไปเป็นที่ระลึกครับ แต่พระครูหน่อยท่านบอกว่า หลวงพ่อท่านใช้เวลาเดิน ๔๕ นาทีถึงบึงลับแล แต่สำหรับคณะเรา เราใช้เวลาร่วมเกือบสองชั่วโมง
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 06-01-2010 เมื่อ 21:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 73 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา