ดังนั้น การปฏิบัติของพวกเราทั้งหลาย เมื่ออารมณ์ใจทรงตัวแล้ว สิ่งที่ควรจะตัดจะละให้เร็วที่สุดก็คือ ให้เลี้ยวเข้าหาอารมณ์พระโสดาบัน พยายามยึดถือและปฏิบัติตามให้เคยชิน เมื่อท่านใดที่ปฏิบัติจนชินแล้ว จะเพิ่มรายละเอียดไปรักษากรรมบถ ๑๐ แทนศีล ๕ ก็ได้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความแน่นอนของอารมณ์พระอริยเจ้าให้มั่นคงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ถ้าเราทำในลักษณะอย่างนี้ทุกวัน ๆ ไม่ต้องมาก ให้อารมณ์ใจทรงตัวตอนช่วงเช้าสัก ๕ นาที ๑๐ นาที ในอารมณ์พระโสดาบัน ก่อนนอนรักษาอารมณ์ใจให้ทรงตัว ๕ นาที ๑๐ นาที ในอารมณ์ของความเป็นพระโสดาบัน ถ้าทำได้แบบนี้ทุกวัน ตายเมื่อไรท่านจะได้เป็นพระโสดาบันจริง ๆ
จริง ๆ แล้วหลักการปฏิบัติเพื่อมรรคเพื่อผล เพื่อความพ้นทุกข์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยาก เพียงแต่ว่าบุคคลที่รู้กฎรู้กติกานั้นมีน้อย แล้วบุคคลที่รู้ส่วนหนึ่งก็ยังมัวแต่ไปฝึกในเรื่องของฤทธิ์ เรื่องของอภิญญาอยู่ อภิญญา แปลว่า รู้ยิ่ง อภิ คือ ยิ่งกว่า อัญญา คือ ความรู้ ความรู้ที่ยิ่งกว่าคนทั่ว ๆ ไป
ในความรู้สึกของอาตมานั้น คำว่าอภิญญาที่จริงแล้วก็คืออารมณ์ความเป็นพระอริยเจ้า เพราะความรู้อะไรก็ไม่มีคุณค่าเท่ากับความรู้ในการก้าวพ้นจากกองทุกข์
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2017 เมื่อ 17:18
|