ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 16-10-2012, 10:42
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,554 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๙. หลังเสด็จกลับเมืองไทย ท่านหญิงก็เสด็จเยี่ยมตำรวจและทหาร พร้อมกับหลวงพ่อและคณะทางภาคเหนือหลายหน ผมได้สังเกตเห็นว่า ในตอนเย็น ท่านเกือบไม่ได้เสวยอะไรเลย หากจะเสวยก็เสวยแบบเสียไม่ได้ เพราะผู้จัดหาอาหารมาชักชวนหนัก ๆ เข้า พร้อมทั้งพวกพระสหายต่างก็จัดของเสวยให้ ท่านจึงเสวยแบบเอาใจคน กลัวเขาจะเสียกำลังใจ พอมีโอกาสว่าง ท่านหญิงก็รับสั่งกับผมว่า ความจริงไม่รู้สึกหิวเลย ปกติแล้วจะไม่เสวย เพราะหากเสวยเข้าไปแล้วมันจะออก (อาเจียน) จิตมันอยากจะถืออุโบสถศีลอยู่เรื่อย เพราะอะไรก็ไม่ทราบ ผมสังเกตทั้งที่เชียงใหม่และเชียงราย ส่วนใหญ่จะเสวยแค่ผลไม้ ๒ - ๓ ชิ้น

๑๐. ตอนปลายปี ๑๙ หรือต้นปี เดือน ม.ค. ๒๕๒๐ จำไม่ได้แน่ ท่านหญิงมีรับสั่งให้ผมเข้าเฝ้าที่วังวิทยุเป็นการส่วนพระองค์ ท่านหญิงทรงเมตตาต่อผมมาก ที่ให้ชมสมบัติอันล้ำค่าทั้งหมด พร้อมทั้งทรงอธิบายว่าได้มันมาจากที่ไหนบ้าง มีสมบัติหลายชิ้นที่ซื้อมาจากต่างประเทศ ซึ่งผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต นอกนั้นก็มีพระพุทธรูปในสมัยโบราณสวยงามมากอีกจำนวนหนึ่ง แล้วในที่สุดท่านก็สรุปว่า

สมบัติเหล่านี้ มันไม่มีความหมายสำหรับท่าน วังวิทยุนี้ก็ไม่มีความหมายสำหรับท่าน” หากผมจำไม่ผิด หลังจากนั้นมาอีก ๑ - ๒ อาทิตย์ ผมก็ได้ข่าวว่า ท่านหญิงได้ยกสมบัติอันมีค่าเหล่านี้ให้แก่ทางพิพิธภัณฑ์ไปส่วนหนึ่ง และให้กับผู้อื่นที่ควรแก่การให้อีกส่วนหนึ่งจนหมด คำตรัสอีกประการหนึ่งที่ชอบตรัสเสมอ ๆ ก็คือ “ชีวิตนี้ไม่มีความหมาย สมบัติในวังวิทยุไม่มีความหมาย” รู้สึกว่า พวกเราที่เป็นศิษย์ของหลวงพ่ออีกหลาย ๆ คน ที่ได้ยินจนชินหูในช่วงระยะ ๓ เดือนก่อนที่ท่านจะสิ้นชีพตักษัย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2012 เมื่อ 11:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 95 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา