ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 31-10-2014, 11:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,608 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนใหญ่พวกเราจะปฏิบัติกันเฉพาะเวลา อย่างเช่นว่าเช้าหรือเย็นหรือว่าเช้าเย็น เวลาที่เหลือบางทีก็ปล่อยให้กำลังใจของเรา ไหลตามกระแสกิเลสไป การปฏิบัติของเราเป็นการว่ายทวนน้ำ พอเราปล่อยให้ไหลตามน้ำไป ถึงเวลาก็ต้องใช้ความพยายามในการว่ายทวนน้ำขึ้นมาใหม่ แล้วก็ปล่อยให้ไหลไปอีก ลักษณะอย่างนี้ก็จะทำให้เราเหนื่อยมาก ทำงานทุกวันแต่ว่าผลงานไม่มี เพราะว่าถึงเวลาก็ไหลกลับไปที่เดิม

ถ้าการปฏิบัติของเราอยู่ในลักษณะอย่างนี้ ก็จะกลายเป็นทำแล้วขาดทุน ฉะนั้น..ในเรื่องของการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ถึงเวลาแล้วค่อยมาปฏิบัติกัน แต่ว่าให้รักษากำลังใจเอาไว้ทุกเวลา ทุกสถานที่ แรก ๆ ก็ไม่ค่อยได้เรื่องหรอก ใหม่ ๆ ถึงเวลาภาวนาเสร็จ สามารถประคองอารมณ์ได้นาทีสองนาทีก็หล่นหายหมดแล้ว

โดยเฉพาะตอนปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ไปเที่ยวคุยกันเรื่องโน้น เรื่องนี้ เรื่องนั้นบ้าง นักปฏิบัติจริง ๆ ถ้าหากจะตั้งใจรักษาอารมณ์ตัวเอง ระยะแรกเริ่มจะไม่ค่อยคุยกับใคร เอากำลังใจของตัวเองเป็นหลัก อาตมาเองสมัยที่ปฏิบัติอยู่ก็เหมือนกัน ใหม่ ๆ ก็ต้องรักษาอารมณ์ ประคองอารมณ์ตัวเองไว้ ก็จะมีพวกคนรอบข้างนั่นแหละ “เป็นอะไรหรือ ? วันนี้เครียดมากหรือ ? ทำไมเงียบ..ไม่คุยกับใครเลย ? ” แหย่ซ้ายแหย่ขวาไปเรื่อย ท้ายสุดเผลอไปคุยก็หลุดอีก

บางวันกำลังใจก็ขึ้น ๆ ลง ๆ ตกแล้วตั้งขึ้นมาได้ ตั้งขึ้นมาแล้วก็หล่นหายไป เป็นร้อยเป็นพันครั้ง เป็นประสบการณ์โหดของนักปฏิบัติทุกคนที่จะต้องมี จะต้องเจอ ดังนั้น..ในส่วนนี้เป็นบทเรียนที่โดนมาจนเข็ด จึงไม่อยากให้พวกเราเป็นอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นแล้วทำเท่าไรก็ไม่ได้ผล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2014 เมื่อ 11:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา