ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 23-02-2019, 20:01
นายกระรอก's Avatar
นายกระรอก นายกระรอก is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2014
ข้อความ: 442
ได้ให้อนุโมทนา: 88,664
ได้รับอนุโมทนา 83,875 ครั้ง ใน 1,594 โพสต์
นายกระรอก is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของการเวียนเทียนนั้นเป็นการถวายแสงสว่างเป็นพุทธบูชา แล้วคราวนี้การเวียนเทียนเราก็มีดอกไม้ธูปเทียนด้วย ซึ่งเป็น ๑ ใน ๑๐ ทานวัตถุที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ ว่าเป็นของที่ควรต่อการถวายบูชาต่อพระรัตนตรัย บาลีท่านว่า “อันนัง ปานัง วัตถัง ยานัง มาลา คันธัง วิเลปะนัง เสยยาวะสะถัง ปะทีเปยยัง ทานะวัตถู อิเม ทะสะ” ก็คือสิ่งทั้งสิบอย่างนี้ จัดเป็นทานวัตถุ วัตถุที่ควรแก่การให้ ได้แก่

อันนัง คือข้าว ข้าวสุก
ปานัง คือน้ำ..ให้ข้าวให้น้ำเป็นทาน
วัตถัง คือผ้า
ยานัง คือยานพาหนะ จะเป็นรถ เรือ เครื่องบิน ใช้ได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้น..ถ้าโยมถวายเครื่องบินส่วนตัว พระท่านก็ต้องรับ เพราะว่าเป็นทานวัตถุที่สมควร ...(หัวเราะ)...
มาลา คือดอกไม้ เน้นเอาดอกไม้สด
คันธัง คือของหอม บรรดาน้ำอบน้ำหอมต่าง ๆ ที่พวกเราไปถวายเป็นพุทธบูชากัน
วิเลปะนัง เครื่องลูบไล้ สมัยนี้คือเครื่องประทินผิว น่าจะประมาณพวกโลชั่น หรือว่าเบบี้ออยล์ สมัยพุทธกาลเน้นน้ำมันทาเท้า
เสยยา เครื่องนอน
วะสะถัง เครื่องนั่ง ก็แปลว่าที่นอนที่นั่งได้หมด จะเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ หรือว่าโซฟาราคาสักตัวละสามหมื่นห้าหมื่นก็ถวายไปเถอะ พระท่านรับได้ ...(หัวเราะ)...
ปะทีเปยยัง เครื่องตามประทีป ที่เรามาจุดเทียนกันนี่แหละ แต่เดิมเพื่อให้แสงสว่าง แต่เรามาทำสวยงามเป็นพุทธบูชา

ก็แปลว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเราถวายไปแล้ว ก็เป็นการกระทำตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้เกี่ยวกับทานวัตถุทั้ง ๑๐ ประการ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2019 เมื่อ 03:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 72 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นายกระรอก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา