อาตมาเองเป็นคนชอบเผื่อเหนียว แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ทำอย่างนั้น ก็คือพกยันต์เกราะเพชรที่เป็นวัตถุมงคลเอาไว้ด้วย เผื่อว่าถ้ายันต์เกราะเพชรที่เรารับอยู่ในร่างกายสูญหายไป ยันต์เกราะเพชรที่เป็นวัตถุมงคลก็จะได้รักษาตัวเราต่อ เพียงแต่ว่าทั้ง ๒ อย่างนี้ ล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อนและมีส่วนเสริมซึ่งกันและกัน
จุดอ่อนก็คือ ยันต์เกราะเพชรที่เรารับติดตัวไป ถ้าไปกินเหล้าหรือลักขโมยก็สูญหายไปเลย แต่ยันต์เกราะเพชรที่เป็นวัตถุมงคล ถึงเวลาถ้าเรากินเหล้าหรือว่าลักขโมย จะหมดอำนาจคุ้มครองแค่ชั่วคราว ถ้าตั้งใจรักษาศีลได้ใหม่ก็คุ้มครองรักษาใหม่ แปลว่าเป่าติดตัว..ไม่ลืม แต่ถ้าละเมิดข้อห้ามอาจจะสูญไปเลย พกติดตัว..ลืมได้ แต่ถ้าละเมิดข้อห้ามแค่ไม่คุ้มครองชั่วคราว
เอาทั้ง ๒ อย่างแบบอาตมาก็แล้วกัน ก็คือตัวอาตมาเองเคยรับยันต์เกราะเพชรจากวัดท่าซุงมา ๑๗ ครั้งด้วยกัน ปัจจุบันก็พกแผ่นยันต์เกราะเพชรของวัดท่าขนุนอยู่ด้วย ถ้าโยมอยากพกแบบอาตมา ไปเสียเงิน ๒๐๐ ท้ายศาลาโน่น ตรงนี้ไม่มีแจก..!
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
งานบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร
วันเสาร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2019 เมื่อ 15:38
|