ดังนั้น...เรื่องศีลของพระไม่จำเป็นต้องอาศัยศาลทางโลกตัดสิน จบไปตั้งแต่คุณกระทำแล้ว เราเป็นฆราวาสถ้าไม่รู้ตรงจุดนี้ก็อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะถึงอย่างไรท่านก็ยังห่มเหลืองอยู่ ยังมีธงชัยของพระอรหันต์คลุมตัวอยู่ ถ้าเราไปด่า ไปตำหนิโดยใช้คำว่า "พระ" นำหน้านี่พังเลย
เพราะคำว่า “พระ” คือผู้ที่ประเสริฐ หมายถึงผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งหมด ไม่ใช่ตัวบุคคล ฉะนั้น...เรื่องที่เกี่ยวกับพระจึงเป็นเรื่องที่อันตรายมาก โบราณรู้จริงถึงได้บอกว่า “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์” คือเราอย่าไปยุ่ง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของท่านจัดการกันเอง ถ้าหากในหมู่ของพระสังฆาธิการฝ่ายปกครองจัดการไม่ได้ ก็ไปรู้กันอีกทีตอนตาย ซึ่งในช่วงนั้นก็ไม่มีใครแก้ไขได้แล้ว
เราอย่าไปหาทุกข์หาโทษใส่ตัว คิดไม่ดีเป็นมโนกรรม พูดไม่ดีเป็นวจีกรรม ทำไม่ดีเป็นกายกรรม มีแต่สร้างกรรมทั้งนั้น จงทำตัวเป็นผู้ดูที่ดี ก็คืออยู่วงนอกอย่างมีสติสัมปชัญญะ อย่าเชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ลงมือเชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเมื่อไรก็แปลว่าอคติ หรือ รัก โลภ โกรธ หลง เริ่มท่วมทับเราแล้ว โอกาสที่จะโดนกิเลสน็อกคาสนามมีเยอะมากแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2017 เมื่อ 02:53
|