พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาซื้อทองคำเกินบัญชีไป ๔ ล้านกว่าบาท เพราะว่าพอทองลดราคามาจนได้ราคาพอใจก็รีบซื้อ ปล่อยไปเดี๋ยวขึ้นราคาอีก ทองคำแท่งละ ๕๐ บาทก็พอที่จะฟาดหัวคนถึงตายแล้ว หนักแท่งละ ๗ ขีดครึ่ง ความจริงน่าจะมีแท่งละ ๑๐ กิโลกรัม ไม่ใช่อะไร..ซื้อแล้วจะวางทิ้งไว้ตรงนี้ ดูว่าใครจะอุ้มไปไหว ?
สมัยเป็นฆราวาสอาตมาซื้อทองคำแท่งละ ๑๐ บาทไว้ ๒ แท่ง ยาวประมาณนิ้วมือ ทิ้งไว้บนเตียง พี่ชายเข้ามาหยิบ ๆ ดู “ไอ้ห่..ของแบบนี้เขาก็เอามาปลอมกันเล่นด้วย” แล้วก็โยนไว้ที่เดิม แสดงว่าอาตมานี่หุ่นไม่น่าเชื่อถือเลยว่าจะมีทองคำกับเขา ขนาดทองจริงเขายังเห็นเป็นปลอมเลย
ในชีวิตที่เห็นทองคำมากที่สุดก็คือทองธรรมชาติ มหาศาลเลย ที่วัดท่าซุงปีนั้นหลวงพ่อขอแรงให้ไปช่วยสร้างเพิงพักให้หมา ก็คือหมาที่ท่านเลี้ยงไว้ที่ตึกสงวนจิตรและเพื่อน ที่ท่านเรียกว่าตึกกลางน้ำ หมาก็วิ่งอยู่รอบ ๆ สระน้ำ ไม่มีที่ให้หลบร้อน หลวงพ่อท่านก็ขอให้ไปช่วยทำศาลาให้หมาหน่อย อาตมาก็ไป จำได้ว่ามีหลวงตาชลอด้วย หลวงตาสวัสดิ์ หลวงตาชลอ หลวงน้าสัมฤทธิ์ หลวงพี่สุธน ไปช่วยกันทำ คราวนี้ก็ไปหาเสาเก่า ๆ เอาในวัดนั่นแหละ
ปรากฏว่าเป็นเสาปูน สูง ๕ เมตร เป็นเสาที่เรียกเสาตีนช้าง ที่ต้นใหญ่ ๆ ตัวเสาขนาดหน้า ๕x๕ นิ้ว แต่ความยาว ๕ เมตร ก็คิดว่าเราต้องการสร้างสูงสัก ๒.๕ เมตร ถึง ๓ เมตรเท่านั้นเอง นี่เสายาวตั้ง ๕ เมตร อย่างน้อยก็ต้องขุดหลุมลึก ๒ เมตร จึงตั้งหน้าตั้งตาขุด ขุดไป ๆ ตักขึ้นมา เฮ้ย..! ทองคำ..เป็นทราย ๆ เลย แล้วทุกคนก็พร้อมใจกันโกยกลบไปเสียอย่างดี แล้วก็มาตัดเสาแทน ทอนให้เหลือยาวเท่าที่ต้องการ ตอนแรกทำไมไม่คิดที่จะตัด ? เหมือนกับท่านต้องการให้เรารู้ว่ามีอยู่จริง ๆ ทำให้พวกเราโง่ขุดหลุมลงไปได้ตั้ง ๒ เมตร ถ้าท่านไม่ได้ตั้งใจให้พวกเราเห็น อย่างไรก็ต้องคิดตัดเสา เพราะว่าเสายาวเกินต้องการไปมาก
อีกครั้งหนึ่งก็ไปดูภูเขาทองที่หลวงพ่อท่านบอกไว้ เพราะฉะนั้น..ชีวิตนี้ก็เลยเฉย ๆ กับของพวกนี้ คิดอยู่อย่างเดียวว่า ถ้าอยากรวยเมื่อไรก็ไปสึก แล้วก็ไปขนเอา อะไรที่เห็นเยอะเกินไปก็จะหมดอยากไปเอง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:30
|