พระอาจารย์เล่าว่า "ช้างป่ากับช้างบ้านขนาดตัวต่างกันลิบลับ เพราะว่าสัตว์ที่เลี้ยงตามบ้านมีข้อเสียอยู่ ๒ อย่าง อย่างแรกคือ การผสมพันธุ์สายเลือดชิด ทำให้แคระแกร็นลงไปเรื่อย เพราะว่าไม่มีตัวอื่นให้ผสม อย่างที่สองคือ ช้างกินอาหารมากวันละประมาณ ๓๐๐ กิโลกรัม แล้วชาวบ้านจะเอาอะไรไปเลี้ยงมากมายขนาดนั้น ช้างบ้านจึงไม่เคยกินอิ่มเลย ยิ่งแกร็นเข้าไปใหญ่
ครั้งแรกที่อาตมาไปเจอช้างในป่า ยังตกใจว่าใช่ช้างหรือเปล่า ในความคิดของอาตมาคิดว่าช้างบ้านใหญ่สุด ใช่ไหม ? ที่ไหนได้พอไปเทียบแล้วแค่รุ่นลูก ๆ ของช้างป่าเท่านั้นเอง อาตมาสูง ๑๗๒ เซนติเมตร บวกกับด้ามกลดอีกอันหนึ่ง เพิ่งจะเอื้อมแตะรอยขี้โคลนที่ช้างเอาสีข้างไปถูต้นไม้ไว้ ต้นไม้โตประมาณ ๒ คนโอบ เปลือกไม้หลุดเป็นแผงเลย แค่ช้างถูต้นไม้แก้คัน ถ้าไม่ได้คันแต่วิ่งชนเข้าจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้น..?!!
ในชีวิตนี้อาตมารอดูสัตว์อยู่ ๒ ชนิด อยากจะเห็นคาตา เพราะไม่เคยเห็นในธรรมชาติก็คือ แรดกับสมเสร็จ หลายคนเชื่อว่าแรดสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ได้ข่าวอยู่เรื่อย ๆ ว่า บริเวณรอยต่อไทย - พม่า ยังมีแรดข้ามไปข้ามมา สมเสร็จยังมีอยู่มากแต่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในป่าดงดิบลึก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2012 เมื่อ 17:37
|