ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 26-03-2024, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,552 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วด้วยความที่ว่าท่านอาจารย์สมปอง (พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ - สมปอง สุธมฺมสนฺตจิตฺโต) บอกว่า "ผมต้องไปเข้าเวรหน้าตึกหลวงพ่อ" แล้วก็วางมือไปเลย ส่วนอีตาชาติชาย (พระชาติชาย สุธมฺมธนปาโล) ที่เป็นลูกมือ นับให้ ๒๐๐ เหรียญ แล้วก็เผ่นไปอีกเหมือนกัน กระผม/อาตมภาพต้องนับอยู่คนเดียว ตั้งแต่ประมาณ ๔ โมงเย็น ไปเสร็จเอาตี ๒..! ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา "ขึ้นชื่อว่าเงิน มึงอย่ามาให้กูเห็นอีก..!" กูไม่สนเลย..เข็ด..! ดังนั้น..การที่เราจะไม่สนใจเรื่องข้าวของเงินทองเป็นเรื่องยาก พระพุทธเจ้าถึงได้ทรงห้ามเอาไว้

แต่คราวนี้สิ่งที่พระองค์ท่านห้าม แม้ว่าจะมีพระบรมพุทธานุญาตว่า สิกขาบทใดที่ไม่เหมาะสมกับยุคสมัย ให้สงฆ์ทั้งหลายสวดเพิกถอนสิกขาบทนั้นได้ แต่ด้วยความที่พระเถระซึ่งสังคายนาพระธรรมวินัยทั้งหมด ท่านเป็นพระอรหันต์ มีจิตละเอียดมาก
เรื่องเล็กแค่ไหนในสายตาพระอรหันต์ ถ้าเกี่ยวข้องด้วยพระธรรมวินัย เป็นเรื่องใหญ่ทั้งสิ้น ก็เลยคงเอาไว้ทั้งหมด ไม่ถอนแม้แต่สิกขาบทเดียว ทั้ง ๆ ที่สมัยนี้เรื่องของเงินเป็นเรื่องจำเป็น พระเราก็เลยต้องหน้าด้านรับเงินไป ถึงเวลาก็มาปลงอาบัติกัน..!

ถึงได้บอกว่า
ญาติโยมอยากจะทำบุญกับพระที่ศีลบริสุทธิ์ แล้วพระที่ใจท่านจะไม่เกาะเงินเกาะทองจนกลายเป็นอาบัติ จะมีสักกี่รูป ? ก็เลยกลายเป็นว่าพอพระใหม่บวชออกมา ศีลบริสุทธิ์ เดินไม่ทันจะพ้นธรณีโบสถ์เลย โยมก็เอาเงินหย่อนใส่ย่ามไปแล้ว ขอให้มีความสุขความเจริญ..! ไอ้ที่ปรารภว่าเป็นเรื่องขำ ๆ สิ่งที่ญาติโยมเขาทำ บางทีก็ย้อนแย้งกับความต้องการของตนเอง

ส่วนพระใหม่ของเราจึงต้องพยายามศึกษาในเรื่องของศีลพระ โดยเฉพาะอาบัติหนัก ๑๗ ข้อ ก็คือ ปาราชิก ๔ กับ สังฆาทิเสส ๑๓ เว้นให้ได้เด็ดขาด ส่วนอื่นเราพลาดบ้างก็แสดงอาบัติคืนไป พยายามที่จะรักษาให้ครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าอยู่ต่อไป จะได้เป็นกำลังหลักของพระพุทธศาสนา สึกหาลาเพศไป บุญกุศลนี้ก็จะช่วยให้ทางชีวิตของเรากว้างขวางขึ้น ทำอะไรได้สะดวกขึ้น

ส่วนไอ้ที่หวังจะ
บวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่นั้น อย่าไปหวังมาก การทดแทนที่แท้จริง คือเราต้องศึกษาธรรมจนเข้าใจ แล้วนำไปสอนท่าน ส่วนอื่นทดแทนยากมาก แต่ก็ถือว่ายังตั้งใจดีที่เข้ามาบวช ส่วนวัตถุประสงค์ในการบวชเป็นอย่างไร ไม่ขอกล่าวถึง ทำให้ดีก็แล้วกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2024 เมื่อ 00:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา