ดูแบบคำตอบเดียว
  #500  
เก่า 06-07-2020, 13:13
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,554 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

กิจวัตรประจำวันพระเณร

กิจวัตรหลักประจำวันของพระเณร ก็คือการนั่งสมาธิภาวนา เดินจงกรม เพื่อฝึกฝนสติปัญญา และชำระกิเลส..ตัวร้อนรุ่มกระวนกระวายอยู่ภายในจิตใจให้เหือดแห้งไป ดังนั้น โดยปกติพระภิกษุสามเณรในวัดจึงไม่รับกิจนิมนต์ไปฉันในที่ใด ๆ นอกวัด เพื่อให้มีเวลาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วยการบำเพ็ญเพียรภาวนาแต่เพียงอย่างเดียว

ในยามเช้า พระภิกษุผู้มีหน้าที่จะจัดอาสนะองค์หลวงตาอย่างละเอียดประณีตด้วยความเคารพบูชายิ่ง

ช่วงเช้ามืดก่อนบิณฑบาต จะเป็นการเตรียมสถานที่สำหรับฉันจังหัน โดยทั้งพระและเณรต่างช่วยกันทำความสะอาด จัดอาสนะ กระโถน ขัดถูพื้นศาลาด้วยกาบมะพร้าว ปัดกวาดศาลา และบริเวณรอบ ๆ อย่างสามัคคีพร้อมเพรียง

งานการทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านจะพยายามทำอย่างขันแข็ง มีสติ และเป็นระเบียบเรียบร้อยตามที่ครูบาอาจารย์สอนเน้นอยู่เสมอตลอดมา

พอได้อรุณ วันใดที่ท้องฟ้าดูเป็นปกติ ไม่มีวี่แววฝนจะตก ท่านจะครองจีวรซ้อนสังฆาฏิ แล้วออกบิณฑบาตโดยพร้อมเพรียงกัน เดินมุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านตาด ระยะทางไปกลับประมาณ ๓-๔ กิโลเมตร ขากลับแวะรับบาตรจากญาติโยม ที่มาจากในเมืองและต่างจังหวัดบริเวณหน้าวัดอีกครั้งหนึ่ง

เส้นทางเดินบิณฑบาตแต่อดีตมี ๒ สาย พระสายแรก ประกอบด้วยพระหนุ่มมีกำลังขาแข็งแรง ต้องเดินออกกำลังไปไกลพอสมควรประมาณ ๒.๕ กม. ส่วนพระสายที่สอง จะออกเดินห่างจากสายที่ ๑ ประมาณ ๕-๑๐ นาที (ในช่วงที่องค์หลวงตาอายุกว่า ๗๐ ปี ท่านก็ยังคงเดินบิณฑบาตเข้าหมู่บ้าน โดยจะขึ้นไปดัดตนบนศาลาก่อนออกบิณฑบาตประมาณ ๑๕ นาที จากนั้นจะเดินตามหลังพระที่ออกบิณฑบาตไปก่อนทั้งสองสาย โดยทั้งสองสายจะไปหยุดรอที่ กม. ๑ เพื่อจัดขบวนแล้วให้องค์หลวงตานำเดินไปหมู่บ้านตาดเป็นอุตราวัฏ)

ผู้ที่มาใส่บาตรก็เรียงรายอยู่หน้าบ้านของตน ทุกคนไม่ว่าผู้ใหญ่ เด็ก พากันพนมมือนบไหว้เมื่อแถวพระผ่านมา ปัจจุบันมีสายบิณฑบาตเพิ่มอีกหนึ่งสาย ระยะทางใกล้กว่าสายที่ ๒ ไม่มากนัก

เมื่อองค์หลวงตาชราภาพมากขึ้น ท่านก็บิณฑบาตย่นเข้า ๆ ให้พอเหมาะกับกำลังธาตุขันธ์ที่อ่อนลง ระยะต่อมาก็เมตตาบิณฑบาตบริเวณหน้าวัดเท่านั้น องค์ท่านฝึกธาตุขันธ์โปรดญาติโยมเช่นนี้อยู่หลายปี.. ทั้ง ๆ ที่ต้องรับและเทบาตรสลับไปสลับมาจำนวนมากเป็นร้อย ๆ บาตรทีเดียว และในที่สุด วันหนึ่งองค์ท่านก็ล้มลงขณะบิณฑบาตนั่นเอง

ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ องค์หลวงตาออกบิณฑบาตภายในสวนแสงธรรมตามปกติ ต่อมาเนื่องจากผู้คนหลั่งไหลมาทำบุญใส่บาตรเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่านต้องถ่ายบาตรเป็นร้อยถึงสองร้อยกว่าครั้งต่อวัน การก้มและเงยศีรษะบ่อย ๆ ทำให้เวียนศีรษะ (ระยะนั้นองค์ท่านอายุ ๘๔ ปีแล้ว) ในเมื่อธาตุขันธ์ไม่อำนวย องค์หลวงตาจึงงดการบิณฑบาต และให้พระอุปัฏฐากนำบาตรขององค์หลวงตาออกรับบาตรแทน โดยในช่วงเวลาเดียวกันนี้องค์ท่านจะไปเดินจงกรม ท่านกล่าวว่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า

เมื่อเสร็จจากบิณฑบาต พระเณรและฆราวาสต่างช่วยกันจัดอาหารหวานคาวเป็นหมวดหมู่ใส่ถาดไว้ เพื่อให้ญาติโยมทั้งที่มาพักปฏิบัติธรรม และที่มาทำบุญตอนเช้าได้รับประทานหลังพระฉันเสร็จแล้ว

เมื่อพระเณรจัดอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว องค์หลวงตาจะอนุโมทนาให้พร จากนั้นพระเณรท่านจะพิจารณาอาหารในบาตรก่อนด้วย ปฏิสังขาโย นิโสฯ เสร็จแล้วฉันในบาตรด้วยอาการสำรวม เงียบกริบ เหมือนไม่มีใครรับประทานอาหารอยู่ในบริเวณนั้น

เสร็จการฉันเช้าแล้ว ผู้มาทำบุญเช้าพร้อมใจกันฟังเทศน์จากองค์หลวงตา หลังฟังเทศน์เสร็จญาติโยมพากันกลับ

สำหรับพระเณรต่างองค์ต่างกลับร้านที่พักปฏิบัติธรรม มีการเดินจงกรม นั่งสมาธิ ภาวนาตลอดวัน อาจมีการพักผ่อนบ้างแล้วความอุตสาหะพยายามของแต่ละองค์

ช่วงเวลาบ่าย เป็นเวลาที่พระมารวมกันฉันน้ำร้อนหรือน้ำปานะ.. ที่โรงไฟหรือโรงต้มน้ำร้อนแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ สัก ๑๕-๓๐ นาที อันเป็นการพักเหนื่อยจากการภาวนา เสร็จจากนี้ก็แยกย้ายเข้าที่ภาวนาต่อ จนถึงในช่วงประมาณบ่าย ๓ โมง พระเณรพร้อมเพรียงกันออกมาทำข้อวัตร ปัดกวาดร้าน และบริเวณทางเดินตลอดถึงรอบศาลา จากนั้นขัดถูทำความสะอาดพื้นศาลา เติมน้ำล้างเท้าบริเวณรอบศาลา และในห้องน้ำ ห้องส้วมให้เต็ม

ช่วงเวลาค่ำ เป็นช่วงเวลาที่พระเณรเข้าที่เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ไหว้พระสวดมนต์ ตามอัธยาศัยเฉพาะตน ส่วนในระยะที่องค์หลวงตามีธาตุขันธ์แข็งแรงอยู่นั้น ท่านจะเรียกประชุมเทศนาอบรมพระสัปดาห์ละครั้งโดยประมาณ ต่อมาระยะหลังเมื่อชราภาพมากขึ้นก็เว้นการประชุมพระห่างออกไปเรื่อย จนกระทั่งงดโดยสิ้นเชิงในปี ๒๕๓๙ เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม เฉพาะในวันเข้าพรรษาและวันกฐินเท่านั้น ที่ท่านยังคงเมตตาแสดงธรรมอบรมพระในช่วงเวลา ๑๕ ปีสุดท้าย..ก่อนจะละขันธ์เข้าสู่พระนิพพาน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2020 เมื่อ 14:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 8 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
สุธรรม (06-07-2020)